New Southbound Policy Portal
สภาบริหาร วันที่ 21 ต.ค. 67
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดการประชุมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประเมินของกลุ่มความร่วมมือเพื่อต่อต้านการฟอกเงินในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (Asia Pacific Group on Money Laundering, APG) โดยนรม.จั๋วฯ กล่าวว่า การป้องกันการฟอกเงินถือเป็นเป้าหมายร่วมกันของไต้หวันและนานาประเทศทั่วโลก โดยรัฐบาลไต้หวันให้ความสำคัญต่อภารกิจการป้องกันการฟอกเงินและการต่อสู้กับการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย ควบคู่ไปกับการปราบปรามอาชญากรรม การทุจริตคอร์รัปชัน อาวุธปืน ยาเสพติดและการฉ้อโกง รวมไปถึงการธำรงรักษาความสงบและความมั่นคงทางสังคม ซึ่งถูกบรรจุเข้าสู่เป้าหมายการบังคับใช้นโยบายที่สำคัญในชื่อ “5 หลักการป้องปราม 7 หลักการสร้างความมั่นคง” โดยในรอบที่ 3 ของการประเมินซึ่งกันและกันภายใต้กรอบ APG ไต้หวันได้รับการประเมินในอยู่ในเกณฑ์ “ติดตามผลทั่วไป” (Regular Follow-up) :˙’ในการประเมินรอบต่อไป ไต้หวันจะเตรียมการให้พร้อมสอดรับต่อเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมรับผิดชอบต่อการปราบปรามการก่ออาชญากรรม อันจะนำไปสู่ความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกที่คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
นรม.จั๋วฯ กล่าวให้การต้อนรับบรรดาอาคันตุกะจากนานาประเทศทั่วโลก ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมกันที่ไต้หวันในครั้งนี้ พร้อมระบุว่า ไต้หวันถือเป็นสมาชิกรุ่นบุกเบิกของ APG ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จวบจนปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 แล้ว นรม.จั๋วฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ APG ได้จัดกิจกรรมขึ้นในไต้หวันเป็นครั้งแรก รวมระยะเวลา 5 วัน พร้อมทั้งเชิญอาจารย์ผู้บรรยายจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ศรีลังกาและผู้เชี่ยวชาญภายในไต้หวัน มาร่วมแบ่งปันความรู้ทางวิชาชีพและประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้านการป้องกันการฟอกเงิน และการต่อสู้กับการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย รวมไปถึงการแพร่ขยายของอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
นรม.จั๋วฯ แถลงว่า เพื่อส่งเสริมกลไกการควบคุมที่เข้มงวดรัดกุม และการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไต้หวันได้มุ่งผลักดันภารกิจที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการตัดเส้นทางสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ภายใต้แผนกลยุทธ์ “ABC” ซึ่งสัญลักษณ์ตัวย่อ “A” หมายถึงการปรับตัวตามกฎข้อระเบียบ (Adaption) ระยะที่ผ่านมานี้ รัฐบาลมุ่งผลักดัน “การต่อต้านและปราบปราม 4 หลักการใหม่” ที่ครอบคลุมไปด้วย “กฎหมายด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน” “กฎระเบียบว่าด้วยการสกัดกั้นภัยอันตรายที่เกิดจากการฉ้อโกง” ทั้งนี้ เพื่อจัดหาเครื่องมือตัวช่วยรูปแบบใหม่ที่เปี่ยมประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย สามารถนำไปใช้ในการปราบปรามการก่ออาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“B” คือการสกัดกั้นการก่ออาชญากรรม (Block) เพื่อตอบสนองต่อกลไกการฉ้อโกงรูปแบบใหม่ รัฐบาลจึงได้ประยุกต์ใช้อุปกรณ์เครื่องมือทางดิจิทัลรูปแบบใหม่ นรม.จั๋วฯ จึงถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใต้การกำกับดูแลของสภาบริหาร รวมถึงหน่วยงานอัยการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวน ศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานป้องกันชายฝั่งทะเลและกรมศุลกากร ที่ประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นการก่ออาชญากรรม ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์แนวทางการแยกแยะข่าวปลอมให้ประชาชนรับรู้อย่างถ้วนหน้า นอกจากนี้ หน่วยงานทางการเงินก็มุ่งสกัดกั้นความเสี่ยงที่เกิดจากการฉ้อโกงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดบรรเทาความเสียหายของภาคประชาชน ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรงยังได้ยกระดับความเข้มงวดในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และการให้บริการทางสินทรัพย์เสมือน ส่วน “C” หมายถึงการประสานความร่วมมือแบบข้ามพรมแดน (Cooperation) ซึ่งเมื่อช่วงที่ผ่านมา ไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้ประสานความร่วมมือในการบุกทลายฐานปฏิบัติการของแก็งค์ต้มตุ๋นข้ามชาติ จากกรณีตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศ ระหว่างไต้หวัน – APG จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
นรม.จั๋วฯ ย้ำว่า ยิ่งประชาคมโลกต้องการไต้หวันมากขึ้นเท่าใด ไต้หวันก็ยิ่งทวีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเท่านั้น และยิ่งไต้หวันมีความสำคัญมากขึ้น ก็ยิ่งต้องประสานความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย