New Southbound Policy Portal

รมช.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์สื่อแคนาดา ย้ำจุดยืนในการกระชับความสัมพันธ์กับ สหรัฐฯ พร้อมสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลชุดใหม่ของว่าที่ปธน.ทรัมป์

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 9 พ.ย. 67
 
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Steven Chase ผู้สื่อข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์ The Globe and Mail จากประเทศแคนาดา โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์ในหัวข้อ “ไต้หวันเชื่อมั่น ทรัมป์ จะไม่ทิ้งไต้หวันแน่นอน” (Taiwan says it is confident Trump will not abandon the island) ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากทั่วโลก
 
รมช.อู๋ฯ เชื่อว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ปธน.สหรัฐฯ จะไม่มีทางยินยอมให้จีนเข้ารุกรานไต้หวันได้โดยง่าย เนื่องจากไต้หวันเป็นหนึ่งในห่วงโซ่สำคัญของระบบห่วงโซ่อุปทานของแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของสหรัฐฯ หากจีนเข้ายึดครองไต้หวัน เกรงว่าระบบห่วงโซ่อุปทานของแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูงก็จะถูกตัดขาดไปด้วย จึงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ จะมีมาตรการอย่างเหมาะสมในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
รมช.อู๋ฯ เห็นว่า หากไร้ซึ่งไต้หวัน นโยบายของปธน.ทรัมป์ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เนื่องจากอุปทานของแผ่นชิปร้อยละ 60 และแผ่นชิปขั้นสูงมากกว่าร้อยละ 90 ถูกผลิตขึ้นในไต้หวัน และแผ่นชิปเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคสมัยใหม่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญตั้งแต่ระดับอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่ยานยนต์และอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น ส่วนแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ประยุกต์ใช้ในด้านเทคโนโลยี AI ก็ล้วนแต่ถูกผลิตขึ้นในไต้หวัน โดยเฉพาะบริษัท TSMC ที่มีบทบาทสำคัญระดับสากลในด้านการผลิตแผ่นชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง นอกจากนี้ ช่องแคบไต้หวันยังถือเป็นศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศ และเป็นเส้นทางขนส่งสินค้านำเข้า – ส่งออกในสัดส่วนมากถึงครึ่งหนึ่งของทั่วโลก
 
รมช.อู๋ฯ ยังเห็นว่า สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางความมั่นคงที่สำคัญของไต้หวัน โดยไต้หวันจะมุ่งเสริมสร้างศักยภาพทางกลาโหม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบต่อไป
 
ต่อประเด็นที่ประเทศภายนอกคาดการณ์ไว้ต่างๆ นานาเกี่ยวกับการรุกรานไต้หวันของจีนด้วยกำลังทหาร รมช.อู๋ฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน ไต้หวันประยุกต์ใช้มาตรการ “Not Today” ผ่านการเสริมสร้างแสนยานุภาพการป้องกันประเทศ และการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก โดยหวังที่จะกระตุ้นให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีนต้องตระหนักในทุกวันว่า “วันนี้มิใช่วันที่จะบุกไต้หวัน”
 
ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – แคนาดา รมช.อู๋ฯ แสดงความขอบคุณต่อสภาผู้แทนราษฎรแคนาดาที่ให้การสนับสนุนต่อญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 พร้อมหวังที่จะเห็นแคนาดามุ่งให้การสนับสนุนไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ญัตติข้างต้นยังชี้ว่า ญัตติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 มิได้ระบุถึงอำนาจอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่ามีสิทธิ์เหนือไต้หวัน และมิได้กำหนดเกี่ยวกับประเด็นการเข้าร่วมในระบบสหประชาชาติของไต้หวัน ด้วยเหตุนี้ สภาผู้แทนราษฎรแคนาดาจึงจะยืนหยัดให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ อย่างมีความหมายต่อไป