New Southbound Policy Portal

การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ไต้หวัน – เอสวาตินี ครั้งที่ 26 ปิดฉากลงอย่างราบรื่น

กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 21 พ.ย. 67
 
การประชุมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ไต้หวัน – เอสวาตินี ครั้งที่ 26 ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 โดยมีนายกัวจื้อฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และ Mr. Thambo Gina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและพัฒนาทางเศรษฐกิจแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินี ร่วมทำหน้าที่เป็นประธาน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์ดิจิทัล อุทยานวิทยาศาสตร์ การประชุมและการจัดนิทรรศการ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และการตรวจสอบตามมาตรฐาน รวมไปถึงศักยภาพด้านคาร์บอนเครดิต เป็นต้น
 
รมว.กัวฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - เอสวาตินี ดำเนินมาเป็นเวลานานเกินกว่าครึ่งศตวรรษ เอสวาตินีเป็นประเทศพันธมิตรที่มุ่งให้ความสนับสนุนไต้หวันบนเวทีนานาชาติเสมอมา ไต้หวันในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของเอสวาตินีในภูมิภาคเอเชีย จะมุ่งประสานความร่วมมือกับเอสวาตินีอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกัน
 
รมว.กัวฯ กล่าวว่า ไต้หวันจะให้ความช่วยเหลือเอสวาตินีในการจัดตั้งแพลตฟอร์มพาณิชย์ดิจิทัล พร้อมทั้งปรับปรุงการให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จภายในเขตอุทยานวิทยาศาสตร์ และขอแสดงความยินดีในการต้อนรับคณะตัวแทนจากเอสวาตินีที่เดินทางมาเยือนไต้หวันอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและศึกษาดูงาน
 
รมว. Gina กล่าวแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไต้หวันที่ให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาประเทศแก่เอสวาตินีเสมอมา พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการผลักดันการก่อตั้งกิจการเพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มสตรีเอสวาตินี ซึ่งประสบความสำเร็จในการปรับปรุงแก้ไขสถานการณ์การบริหารขององค์กรผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยเอสวาตินีหวังที่ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำในทวีปแอฟริกา ภายในปี พ.ศ. 2573 จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอันดีงามและจริงใจ
 
ตลอดหลายปีมานี้ เอสวาตินีได้เดินทางมาเข้าร่วมจัดแสดงในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในไต้หวันหลายครั้ง โดยมีการจัดแสดงสินค้า เช่น น้ำผึ้ง ซอสพริก น้ำมันหอมระเหย และน้ำมันเมล็ดมารูล่า ซึ่งล้วนแต่ได้รับความนิยมในไต้หวัน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 หลังจากที่ความตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ไต้หวัน – เอสวาตินี มีผลบังคับใช้ ได้ส่งผลให้มูลค่าการค้าแบบทวิภาคีขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 ในปี พ.ศ. 2566 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2560 โดยที่มูลค่าการนำเข้าของไต้หวันจากเอสวาตินี ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 17 เท่าด้วย
 
รัฐบาลไต้หวันยังคงสนับสนุนการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องของเอสวาตินีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีในภาคอุตสาหกรรม โดยที่เอสวาตินีก็ได้สนับสนุนและเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติ ด้วยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่าย ทำให้สามารถเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันได้อย่างแท้จริง