New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 16 ธ.ค. 67
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐลิทัวเนีย (Lithuanian National Radio and Television, LRT) โดยรองปธน.เซียวฯ ได้ตอบข้อซักถามของสื่อในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และความสัมพันธ์ระหว่างลิทัวเนีย - ไต้หวัน
การสัมภาษณ์ในรูปแบบถาม - ตอบของรองปธน.เซียวฯ มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้ :
ถาม : ก่อนอื่นเริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย รองปธน.เซียวฯ คิดว่า เหตุใดการรักษาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับลิทัวเนียอย่างต่อเนื่อง จึงมีความสำคัญกับไต้หวัน
ตอบ : ไต้หวันและลิทัวเนีย มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกัน เนื่องจากพวกเราต่างก้าวผ่านประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน และร่วมต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย ภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน หลังจากที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน ทำให้พวกเราตระหนักดีว่า จีน รัสเซียและเกาหลีเหนือ ซึ่งล้วนแต่เป็นรัฐบาลในระบอบเผด็จการ ต่างมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึก ภายใต้ช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้ ไต้หวัน - ลิทัวเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่เคยถูกรังแกและได้รับแรงกดดันจากกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่แนวหน้า จึงควรที่จะมีความสามัคคีและจับมือกัน ในการปกป้องค่านิยมทางเสรีภาพและประชาธิปไตยที่พวกเราหวงแหนให้คงอยู่ต่อไป
ถาม : สำหรับประชาชนชาวลิทัวเนีย เหตุใดการเลือกลงทุนในลิทัวเนียของไต้หวันจึงมีความสำคัญ สังคมลิทัวเนียควรมีความเข้าใจในเรื่องใด
ตอบ : ไต้หวันหวังจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทางเทคโนโลยีระดับโลก และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ที่ส่งเสริมความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ โดยใช้ความพยายามมานานหลายทศวรรษในการสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง และจัดหาชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่เป็นตัวขับเคลื่อนการปฏิวัติปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมโลก AI ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทั่วโลกไม่สามารถขาดได้ ไต้หวันจึงคาดหวังที่จะประสานความร่วมมือกับหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ประกอบกับลิทัวเนียมีข้อได้เปรียบหลายประการที่สามารถเติมเต็มอุตสาหกรรมของไต้หวัน และเป็นต้นแบบการเรียนรู้ของไต้หวันในหลากหลายมิติ จากการประสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจแบบทวิภาคี ทั้งสองประเทศสามารถเสริมสร้างกลไกทางเศรษฐกิจ และลดการพึ่งพากลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต่างก็ต้องทำการพัฒนาบนพื้นฐานของความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนกฎกติกาสากล นอกจากนี้ พวกเรายังยึดมั่นในจุดยืนที่จะต่อต้านการใช้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า เป็นเครื่องมือในการสร้างแรงกดดันทางการเมือง หากพิจารณาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และข้อได้เปรียบของภาคประชาชนระหว่างสองประเทศ การกระชับความสัมพันธ์ทางความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจและการลงทุน ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย จึงถือได้ว่าเป็นการวางรากฐานที่ดีเป็นอย่างยิ่ง
ถาม : จากข้อซักถามข้างต้น รองปธน.เซียวฯ แสดงจุดยืนด้วยคำว่า “จะ” (will) ไม่ทราบว่า ท่านมองอนาคตและทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ไว้อย่างไร
ตอบ : หลายปีมานี้ ไต้หวัน - ลิทัวเนีย มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างกันอย่างเต็มที่ ทุกคนคงทราบดีว่า มิตรสหายที่ยึดมั่นในเสรีภาพ ควรให้การสนับสนุนแก่กัน มิตรสหายที่ยึดมั่นในเสรีภาพ ควรให้ความช่วยเหลือแก่กันในยามลำบาก ไต้หวันจึงหวังที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิงลึก อีกทั้งยังคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะธำรงรักษาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคี บนพื้นฐานของการได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในด้านความเจริญรุ่งเรืองระดับสากลต่อไป
ถาม : การจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันขึ้นในดินแดนลิทัวเนีย มีความสำคัญต่อทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่า จีนมีปฏิกริยาเช่นไรต่อกรณีนี้
ตอบ : การเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน มีความยากลำบากเสมอมา เนื่องจากพวกเราถูกรังแก ถูกประเทศพันธมิตรตัดสัมพันธ์ทางการทูต และได้รับแรงกดดันต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ จีนยังได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นส่วนที่ยืนหยัดเคียงข้างไต้หวัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับพวกเรา การจัดตั้งสำนักงานตัวแทนขึ้นในลิทัวเนีย นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงค่านิยมด้านประชาธิปไตย สันติภาพและเสรีภาพที่ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นร่วมกันแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือในอีกขั้น ระหว่างภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม
ถาม : เป้าหมายของไต้หวันคือการจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตในลิทัวเนีย ใช่หรือไม่
ตอบ : การจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตในทุกประเทศทั่วโลก เป็นอุดมการณ์ของไต้หวันและเจ้าหน้าที่ทางการทูตทุกคนที่มุ่งมั่นเพื่อดำเนินภารกิจนี้ อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงที่น่าเศร้าสลดคือ ปัจจุบัน ไต้หวันมีประเทศพันธมิตรเพียง 10 กว่าประเทศเท่านั้น เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงมุ่งสร้างแรงกดดันและคุกคามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พวกเราดำเนินภารกิจในเวทีนานาชาติอย่างยากลำบาก เมื่อต้องเผชิญกับความอยุติธรรม และความไม่เท่าเทียม พวกเรารู้สึกขอบคุณนานาประเทศทั่วโลกเข้าใจต่อข้อเท็จจริงที่ว่า ญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ถูกตีความในทิศทางที่บิดเบือน อันจะเห็นได้จากการที่รัฐสภาเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และแคนาดา รวมไปถึงรัฐสภายุโรป ต่างก็มีมติเห็นชอบต่อญัตติที่เน้นย้ำความสำคัญของการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศของไต้หวันอย่างมีความหมาย พร้อมทั้งระบุว่า การจงใจตีความญัตติ 2758 ในทิศทางที่ขัดต่อหลักข้อเท็จจริง เป็นการขัดขวางมิให้ไต้หวันและประชาคมโลก ก่อตั้งความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ
ถาม : สภาพแวดล้อมทางสังคมของไต้หวันในปัจจุบันเป็นอย่างไร หลังจากที่ภาคประชาชนรับทราบแผนปฏิบัติการของจีน และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยรอบ รวมไปถึงแผนปฏิบัติการทางการทหาร
ตอบ : ประชาชนชาวไต้หวันยึดมั่นในสันติภาพ พวกเราไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับผู้ใด อย่างไรก็ตาม สงครามรัสเซีย – ยูเครน ย้ำเตือนให้พวกเราตระหนักว่า สันติภาพไม่สามารถถูกมองเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป พวกเราจำเป็นต้องเสริมสร้างศักยภาพในการปกป้องประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ที่ว่า เหตุใดการซึมซับประสบการณ์จากภาคประชาสังคมของประเทศอื่นจึงมีความสำคัญ เป้าหมายของพวกเราคือ การเสริมสร้างศักยภาพและความยืดหยุ่น รวมไปถึงยกระดับศักยภาพในการปกป้องประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความขัดแย้งขึ้น
สภาพแวดล้อมทางสังคมไต้หวันในปัจจุบันคือ พวกเราหวังที่จะธำรงรักษาและปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องการให้หุ้นส่วนและมิตรสหายยืนเคียงข้างพวกเรา ประชาชนชาวไต้หวันคาดหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโลกในการยึดมั่นในสันติภาพ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนกับนานาประเทศทั่วโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในภาคประชาสังคมของไต้หวัน
ถาม : มีคนเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่เรารู้สึกปลอดภัย จึงจะสามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ พวกเราเชื่อว่า ประชาชนชาวไต้หวันมีความเชื่อมั่นในกองทัพแห่งชาติ
ตอบ : แม้จะต้องเผชิญหน้ากับการเผยแพร่ข่าวปลอมและการแทรกแซงทางการเมือง แต่พวกเรายังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของภาคประชาชนที่มีต่อกองทัพ กลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยมมีความประสงค์ที่จะสร้างความแตกแยกในภาคประชาสังคม ด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เฉพาะไต้หวันที่ได้รับผลกระทบ ทั่วโลกต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่ถึงกระนั้น พวกเราก็ยังมีภารกิจที่ต้องมุ่งเดินหน้าอีกมาก เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของภาคประชาชนที่มีต่อความมั่นคงและศักยภาพทางกลาโหม ซึ่งการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างประเทศในเชิงลึก ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นด้วยเช่นกัน
ถาม : ขณะนี้ พวกเรากำลังมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมในเชิงลึก ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รองปธน.เซียวฯ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวัฒนธรรม 2 รูปแบบที่อยู่คนละซีกโลกในทิศทางสองขั้ว ปัจจัยสำคัญของการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันคืออะไร
ตอบ : ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของพวกเรา แม้จะตั้งอยู่ห่างไกลกันมาก และมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เชื่อว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม สามารถส่งเสริมให้ภาคประชาชนทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจต่อกัน พวกเราต่างก็มีศิลปินและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์เป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ผ่านผลงานศิลปะ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี และต้องขอย้ำว่า ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเกิดจากเสรีภาพที่แท้จริงในการสร้างสรรค์และนวัตกรรม นี่คือเหตุผลที่ทำให้การร่วมกันปกป้องเสรีภาพในการสร้างสรรค์และนวัตกรรม รวมถึงการแบ่งปันจิตวิญญาณแห่งสันติภาพและความงดงามนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง