New Southbound Policy Portal
สภาบริหาร วันที่ 21 ม.ค. 68
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 มกราคม 2568 นายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เดินทางไปเยือนนครไถหนาน เพื่อเข้าตรวจการณ์สถานการณ์ความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและสถานศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่เมืองเจียอี้ โดย นรม.จั๋วฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่การแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ พร้อมแสดงความชื่นชมต่อเทศบาลนครไถหนาน ที่สามารถตรวจสอบรวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ซึ่งหน่วยงานส่วนกลางทุกแห่งจะให้ความช่วยเหลือในการกู้ภัยอย่างเต็มที่ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยให้กับวิถีชีวิตและความมั่นคงในสถานศึกษา ภายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้ นรม.จั๋วฯ ยังหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ประสานความร่วมมือกันเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างเต็มกำลัง
นรม.จั๋วฯ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ตนได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทย ศูนย์เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของไต้หวัน (NCDR) กระทรวงเศรษฐการ และรัฐวิสาหกิจในกลุ่มน้ำมัน ไฟฟ้า น้ำตาลและประปา ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐการ ตรวจสอบสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน ซึ่งทุกหน่วยงานต่างจัดส่งเจ้าหน้าที่เร่งฟื้นบูรณะเขตพื้นที่ที่ถูกตัดน้ำ - ตัดไฟ เพื่อให้การดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ต่อกรณีที่เส้นทางสัญจรได้รับความเสียหายและอาคารบ้านเรือนพังทลายลง รัฐบาลจะยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น
นรม.จั๋วฯ ชี้ว่า การเดินทางเข้าตรวจการณ์ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการประการแรก คือ การตรวจการณ์ความมั่นคงด้านโครงสร้างของอาคารบ้านเรือนของผู้ประสบภัย ประการที่ 2 คือการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้ประสบภัย และประการสุดท้าย คือ การช่วยเหลือภารกิจการฟื้นฟูบูรณะในภายหลัง เนื่องด้วยเทศกาลตรุษจีนใกล้เวียนมาถึง เทศบาลนครไถหนานจึงได้ออกมาตรการให้ผู้ประสบภัยเข้าพักโรงแรม ในช่วงระยะสั้น เพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ได้อย่างไร้ความกังวล ซึ่งนรม.จั๋วฯ ย้ำว่า หน่วยงานส่วนกลางทุกแห่งจะมุ่งมั่นทุ่มเทในภารกิจการช่วยเหลือกู้ภัยอย่างเต็มกำลัง
จากนั้น นรม.จั๋วฯ ได้เดินทางไปเยือนโรงเรียนประถมศึกษาหนานซี ที่ตั้งอยู่ในนครไถหนาน เพื่อเข้าตรวจการณ์สถานการณ์ความเสียหายที่ได้รับ โดย นรม.จั๋วฯ ย้ำว่า สภาบริหารให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสถานศึกษาเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจเช็คให้มั่นใจว่าอาจารย์ นักเรียน และเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างอยู่ในความปลอดภัยแม้อาคารของโรงเรียนจะถล่มลงมา ซึ่งหากทางโรงเรียนต้องการความช่วยเหลือจากเทศบาลในพื้นที่ต่างๆ โดยรอบ หรือต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รัฐบาลจะประสานกับสมาคมวิศวกรโยธาและสมาคมอุตสาหกรรมในทุกพื้นที่ เพื่อบูรณาการทรัพยากรมาให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ต่อกรณีที่สถานศึกษาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ยื่นขออนุมัติงบประมาณเพื่อการบูรณะ รวมมูลค่า 20 ล้านเหรียญไต้หวัน นั้น นรม.จั๋วฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ ทำการประเมินและส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็วต่อไป
หลังเสร็จสิ้นภารกิจการตรวจการณ์ที่ รร. หนานซีแล้ว นรม.จั๋วฯ ยังได้มุ่งหน้าต่อไปยังศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้กำลังใจแก่กลุ่มผู้ประสบภัยที่ย้ายมาพำนักชั่วคราวในสถานที่แห่งนี้ โดยนรม.จั๋วฯ กล่าวว่า ในระหว่างที่ประสบเหตุภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ หากผู้ใหญ่บ้านและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รวมไปถึงองค์กรภาคประชาสังคม สามารถติดต่อและร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว พวกเราก็จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย “ความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม”
นรม.จั๋วฯ ยังใช้โอกาสนี้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมการรับมือให้พร้อมอยู่เสมอ ก่อนการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างรอบคอบ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ให้มีการฝึกซ้อม การอบรม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการสื่อสารอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาปกติ และภายหลังการเกิดภัยพิบัติแต่ละครั้ง ควรนำบทเรียนที่ได้รับมาปรับปรุงและขยายขีดความสามารถในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมโยงและการประสานงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการป้องกันภัยที่แข็งแกร่งขึ้น เพราะหากไม่สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลลดลงได้