New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 เม.ย. 68
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 นายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Darius Rochebin พิธีกรรายการข่าวการเมืองของสถานีโทรทัศน์ LCI แห่งฝรั่งเศส โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้รับการแพร่ภาพออกอากาศในช่วงค่ำของวันเดียวกันที่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากภาคประชาชนชาวฝรั่งเศส
รมช.อู๋ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางการทหารที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจากจีน ภารกิจแรกของไต้หวันคือการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป อย่างเช่น ฝรั่งเศส รวมถึงบรรดามิตรประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและแคนาดา เพื่อร่วมธำรงปกป้องประชาธิปไตยและเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่เจริญรุ่งเรือง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไต้หวันและกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย ต่างต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางการทหารจากจีนเป็นประจำทุกวัน แม้ว่ากลุ่มประเทศในทวีปยุโรปจะไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ตรงเช่นเดียวกันกับกลุ่มประเทศเอเชีย หากแต่หลายปีมานี้ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปต่างก็ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว อันจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลีและเยอรมนี ต่างทยอยจัดส่งเรือรบเข้าลาดตระเวณความมั่นคงในพื้นที่รอบภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก
รมช.อู๋ฯ วิเคราะห์พร้อมระบุว่า เนื่องจากศักยภาพของจีนยังไม่สามารถแซงหน้าสหรัฐฯ ได้ ด้วยเหตุนี้ จีนจึงอาศัยการประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เพื่อลดทอนสถานภาพของสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีนยังทะเยอทะยานที่จะฉกฉวยความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีจากยุโรป เพื่อนำไปเสริมสร้างศักยภาพทางอุตสาหกรรมของตน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ด้วยการจัดตั้งกลไกระหว่างประเทศที่ควบคุมโดยรัฐบาลปักกิ่ง พร้อมกันนี้ รมช.อู๋ฯ ยังเน้นย้ำว่า จีนต้องการจะสร้างความแตกแยกในกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มประเทศทวีปยุโรปอย่าเลือกเดินบนเส้นทางที่สานสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนอย่างใกล้ชิด
ต่อประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ รมช.อู๋ฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ที่ทรงอิทธิพลในประชาคมโลก สอดคล้องต่อผลประโยชน์ของไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ ไต้หวันกำลังเร่งเปิดเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ในประเด็นภาษีศุลกากร เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุฉันทามติกันในแนวทางความร่วมมือที่เป็นไปอย่างประสิทธิภาพ
ต่อกรณีที่จีนประกาศใช้กลยุทธ์พื้นที่สีเทาต่อประชาคมโลกในทุกแง่มุมอย่างต่อเนื่องนั้น รมช.อู๋ฯ แสดงทรรศนะว่า กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปควรที่จะตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากพฤติกรรมการแทรกแซงและการสอดแนมจากจีน เนื่องด้วยจุดเด่นของประชาธิปไตยอยู่ที่ทุกคนมีเสรีภาพเท่าเทียมกัน แต่คุณลักษณะพิเศษที่เปิดกว้างเช่นนี้ กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยมเข้าโจมตีได้โดยง่าย ด้วยเหตุนี้ พันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลกจึงควรที่จะร่วมรับมืออย่างรอบคอบ