New Southbound Policy Portal

ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับคณะตัวแทนสถาบันวิจัยเอเชียแห่งชาติของสหรัฐฯ

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 29 เม.ย. 68
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนสถาบันวิจัยเอเชียแห่งชาติสหรัฐฯ (National Bureau of Asian Research, NBR) พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันยืนอยู่แนวหน้าในฝ่ายพันธมิตรด้านประชาธิปไตยโลก ที่มุ่งมั่นดำเนินการตามหลักการ “แผนปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ 4 มิติ” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพ โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะกระตุ้นความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและความมั่นคงแห่งชาติ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เพื่อยกระดับความทรหดทางเศรษฐกิจแบบทวิภาคี ก้าวสู่การเป็นเสาหลักที่สำคัญในความมั่นคงระดับภูมิภาค ตลอดจนผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ก้าวพัฒนาไปสู่อีกลำดับขั้น
 
เริ่มต้น ปธน.ไล่ฯ กล่าวให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่ประกอบด้วย พลเรือเอก John C. Aquilino ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก และ Dr. Michael Wills ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย NBR และเหล่าอาคันตุกะที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกท่านในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ และสถานการณ์ล่าสุดในภูมิภาค
 
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ตลอดวาระตำแหน่งของพล.ร.อ. Aquilino ได้มีการเฝ้าจับตาต่อประเด็นช่องแคบไต้หวันอย่างใกล้ชิด ส่วน NBR ก็เป็นหน่วยงานที่มุ่งวิจัยและวิเคราะห์เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในระดับภูมิภาค เนื่องจากคุณูปการและความมุ่งมั่นที่ทั้งสองท่านได้ร่วมสร้าง ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้ประชาคมโลกตระหนักเข้าใจถึงบทบาทของไต้หวัน ที่มีต่อการพัฒนาทางประชาธิปไตยในระดับภูมิภาคและระดับโลก ปธน.ไล่ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
 
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ไต้หวันยืนอยู่แนวหน้าในกลุ่มประเทศประชาธิปไตย หรือตั้งอยู่แนวหน้าในพื้นที่ห่วงโซ่ระยะที่ 1 ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ พวกเรามุ่งมั่นในการดำเนินการตามหลักการ “แผนปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ 4 มิติ” อย่างมุ่งมั่น เพื่อมุ่งยกระดับแสนยานุภาพทางกลาโหม จัดตั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพผู้นำความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันที่มีเสถียรภาพและยึดมั่นบนพื้นฐานหลักการ ตลอดจนยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรด้านประชาธิปไตย เพื่อร่วมสำแดงศักยภาพการสกัดกั้น ควบคู่ไปกับการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ภูมิภาค
 
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ปธน.ไล่ฯ ได้ประกาศเพิ่มอัตราค่าตอบแทนพิเศษให้แก่กองพลทหารอาสาสมัครและกองพลรบพิเศษ โดยรัฐบาลจะมุ่งผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหม และการพึ่งพาตนเองด้านกลาโหมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะจัดสรรงบประมาณกลาโหมให้เพิ่มสูงขึ้นในสัดส่วนร้อยละ 3 ของ GDP อันจะเป็นการยกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเอง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงปกป้องไว้ซึ่งค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า เนื่องในวาระครบรอบ 46 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” พวกเราขอแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันอย่างต่อเนื่องเสมอมาเป็นเวลาหลายปี ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนในเชิงลึกระหว่างกัน เชื่อว่า นอกจากการแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือทางกลาโหมแล้ว ไต้หวัน – สหรัฐฯ ยังจะสามารถจัดตั้งความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอันใกล้ชิดระหว่างกัน เพื่อยกระดับความทรหดทางเศรษฐกิจแบบทวิภาคี ตลอดจนก้าวสู่การเป็นเสาหลักสำคัญด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคต่อไป
 
พล.ร.อ. Aquilino กล่าวขณะปราศรัยว่า นับเป็นครั้งที่ 5 ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือนที่ตนเดินทางเยือนไต้หวันอีกครั้ง พร้อมแสดงความรู้สึกประทับใจต่อศักยภาพผู้นำรวมถึงวิสัยทัศน์การปกป้องไต้หวัน และคุ้มครองภาคประชาชนชาวไต้หวันอย่างกระตือรือร้นของปธน.ไล่ฯ
 
พล.ร.อ. Aquilino กล่าวว่า ตนสังเกตเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังมุ่งผลักดัน “ความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม” อันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการสกัดกั้นที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ซึ่งกระบวนการภารกิจได้ปลุกพลังความฮึกเหิมให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
 
พล.ร.อ. Aquilino กล่าวว่า ประชาธิปไตยที่ได้รับการพัฒนาจนเกิดความเจริญรุ่งเรืองในไต้หวัน มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค พล.ร.อ. Aquilino และสถาบัน NBR จะร่วมส่งมอบการสนับสนุนให้ไต้หวันอย่างยั่งยืนต่อไป ผอ. Wills และทีมวิจัยของสถาบัน NBR ถือเป็นสินทรัพย์ที่ล้ำค่าของไต้หวัน - สหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีในเชิงลึก และสร้างหลักประกันด้านสันติภาพและเสถียรภาพให้คงอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้สืบต่อไป