New Southbound Policy Portal

ปธน.ไล่ชิงเต๋อ ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนฝ่ายบริหารของกรมส่งเสริมเยาวชนแห่งพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น”

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 1 พ.ค. 68
 
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนฝ่ายบริหารของกรมส่งเสริมเยาวชนแห่งพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น” ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนไต้หวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2568 โดยมี Mr. NAKASONE Yasutaka ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะ นำเจ้าหน้าที่รวม 11 คน เดินทางมาเยือนในครั้งนี้
 
กรมส่งเสริมเยาวชนของพรรค LDP เป็นช่องทางสำคัญของพรรค LDP ในการร่วมแลกเปลี่ยนกับไต้หวัน ซึ่งมักจะรวบรวมคณะตัวแทนเดินทางเยือนแลกเปลี่ยนกับทุกแวดวงของไต้หวันเป็นประจำทุกปี Mr. Yasutaka เคยดำรงตำแหน่งหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ประกอบกับสมาชิกคณะตัวแทนชุดนี้ ล้วนแต่เป็นสมาชิกสภายุคใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาไปสู่บุคลากรระดับประเทศชาติ
 
การนำคณะเดินทางมาเยือนของกรมส่งเสริมเยาวชนแห่งพรรค LDP นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความเข้าใจต่อทิศทางนโยบายทางการทูตและนโยบายล่าสุดระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การยกระดับการทูตรัฐสภาและความสัมพันธ์ทางความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางความร่วมมือในเชิงลึกกับญี่ปุ่น ภายใต้พื้นฐานที่มีอยู่เดิม ตลอดจนจับมือกันส่งเสริมประชาธิปไตย สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบต่อไป
 
ในระหว่างนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเหล่าอาคันตุกะที่ส่งมอบการสนับสนุนต่อความสัมพันธ์เชิงลึก ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านกลาโหม เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม การกีฬาและศิลปะ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์แบบทวิภาคี พัฒนาไปสู่อีกลำดับขั้น
 
ปธน.ไล่ฯ ยังแถลงว่า สมาชิกกรมส่งเสริมเยาวชนถือเป็นผู้นำสำคัญในแวดวงทางการเมืองในอนาคตของญี่ปุ่น ไต้หวันจึงให้ความสำคัญในการแลกเปลี่ยนกับกรมส่งเสริมเยาวชนของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งระบุว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีส่วนเกี่ยวพันกับความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของโลก จึงหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายกระชับการแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือกัน ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – ญี่ปุ่น ยังสามารถร่วมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือกันในประเด็นอุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจ เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่ายมีข้อได้เปรียบที่สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ ด้วยเหตุนี้ การประสานความร่วมมือในอีกลำดับขั้นจึงสามารถเอื้อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายได้ ณ ที่นี้ขอหยิบยกอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มาประกอบการชี้แจง เนื่องจากไต้หวันมีจุดแข็งในด้านการผลิต ส่วนญี่ปุ่นมีจุดแข็งในด้านวัสดุตั้งต้น อุปกรณ์เครื่องมือและเทคโนโลยี หากทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือกัน จะสามารถส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มุ่งสู่การพัฒนาที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป
 
ปธน.ไล่ฯ แสดงทรรศนะว่า นอกเหนือจากแง่มุมทางเศรษฐกิจและกลาโหมแล้ว ไต้หวัน – ญี่ปุ่น ยังสามารถเปิดการแลกเปลี่ยนกันในด้านการศึกษา วัฒนธรรม การกีฬาและศิลปะ เป็นต้น
 
Mr. Yasutaka อธิบดีกรมส่งเสริมเยาวชน กล่าวว่า การเดินทางเยือนไต้หวันในทุกปี ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมของพรรค LDP ซึ่งในทุกครั้งพวกเรามักได้รับโอกาสเข้าพบคารวะผู้นำไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อคณะตัวแทนของปธน.
 
Mr. Yasutaka เห็นด้วยต่อแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น ทั้งในเชิงกลยุทธ์และเชิงปฏิบัติ เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมหวังที่จะเห็นการแลกเปลี่ยนของทั้งสองฝ่าย มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน นอกจากนี้ ทั้งไต้หวัน – ญี่ปุ่น ต่างก็เป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยมหาสมุทร ด้วยเหตุนี้ การอนุรักษ์มหาสมุทรและการประยุกต์ใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างเกิดประโยชน์ จึงถือเป็นพันธกิจร่วมกันของ 2 ประเทศ ทั้งสองฝ่ายจึงควรที่จะร่วมจับมือกันก้าวเดินไปบนเส้นทางสู่การพิชิตเป้าหมาย สำหรับประเด็นสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีส่วนเกี่ยวพันกับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและทั่วโลก พวกเราจำเป็นต้องส่งเสริมให้ผู้นำนานาประเทศทั่วโลก ตระหนักทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยญี่ปุ่นจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์แนวคิดดังกล่าวนี้ด้วย
 
Mr. Yasutaka ชี้ว่า ในแง่มุมด้านเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องด้วยบริษัท TSMC ได้เข้าจัดตั้งโรงงานในเมืองคูมาโมโตะ ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก ประกอบกับรัฐบาลญี่ปุ่นได้อัดฉีดเงินอุดหนุนจำนวน 1,250,000 ล้านเยน เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยในอนาคต รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 10,000,000 ล้านเยน เพื่อให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาเทคโนโลยี AI
 
Mr. Yasutaka ระบุว่า แม้ว่าไต้หวันจะเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ศักยภาพผู้นำที่แข็งแกร่งและมีพลังของปธน.ไล่ฯ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว สูงถึง 4.6% อีกทั้งปธน.ไล่ฯ ยังมุ่งผลักดันการเสริมสร้างมาตรการความยืดหยุ่นในภาคประชาสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นผู้นำที่น่าเคารพยกย่องคนหนึ่งของโลก