New Southbound Policy Portal

คณะตัวแทนเพื่อคว้าสิทธิเข้าร่วมองค์การอนามัยโลกของไต้หวัน พบปะพูดคุยกับตัวแทนระดับสูงของแพทยสมาคมโลกที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม WHO และการประชุม WHA พร้อมกันนี้ ตัวแทนสโมสรฟอร์โมซาในภูมิภาคยุโรป ต่างร่วมลงนามในหนังสือเรียกร้อง เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA อย่างกระตือรือร้น

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ และกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 พ.ค. 68
 
“คณะตัวแทนเพื่อคว้าสิทธิเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก” ของไต้หวัน ที่นำโดยนายชิวไท่หยวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการไต้หวัน เดินทางถึงกรุงเจนีวาแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ซึ่งได้ทำการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติเพื่อผลักดันให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) และการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) โดยในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 18 พ.ค. คณะตัวแทนและสมาคมการแพทย์ไต้หวัน (Taiwan Medical Association, TMA) ร่วมจัดกิจกรรมรับประทานอาหารเช้ากับตัวแทนแพทยสมาคมโลก (World Medical Association, WMA) WMA เป็นหน่วยงานที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2490 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานการแพทย์อิสระ ก่อกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวขององค์การการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศทั่วโลก จวบจนปัจจุบัน มีประเทศสมาชิก รวมทั้งสิ้นกว่า 112 ประเทศ ซึ่งมีพันธกิจเพื่อส่งเสริมจริยธรรมทางการแพทย์ ควบคู่ไปกับการกำหนดกฎระเบียบทางการแพทย์ที่เหมาะสำหรับการประยุกต์ใช้ในระดับสากล อาทิ ปฏิญญาเฮลซิงกิ (Declaration of Helsinki) ที่กำหนดขึ้นโดย WMA ได้กลายมาเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับการวิจัยทางการแพทย์ระดับโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางการแพทย์สมัยใหม่เป็นอย่างมาก อนึ่ง การประชุมสมัชชาของแพทยสมาคมโลกในปี 2559 ได้จัดขึ้นที่กรุงไทเป นายชิวไท่หยวน ซึ่งในขณะนั้น รับหน้าที่เป็นประธานสมาคมการแพทย์ไต้หวัน (TMA) รับหน้าที่เป็นประธานการประชุม พร้อมทั้งประกาศ “ปฏิญญาไทเป” (Declaration of Taipei) ภายใต้หัวข้อระบบบฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งการประชุมแลกเปลี่ยนในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม คณะตัวแทนได้ร่วมจัดงานแถลงข่าวร่วมกับ WMA เพื่อเรียกร้องให้ประชาคมโลกให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในระบบสาธารณสุขโลก
 
Dr. Ashok Philip นายกสมาคม WMA ถูกซักถามในประเด็นที่ว่า เหตุใดไต้หวันจึงควรได้รับการเชิญให้เข้าร่วมในองค์การ WHO และสมควรแก่การถูกรับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม WHA ?

Dr. Philip กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของ WHO คือการรวบรวมข้อมูลการแพทย์และสาธารณสุขโลก เพื่อกำหนดนโยบายการส่งเสริมสุขภาพของมวลมนุษยชาติ หากปราศจากซึ่งการเข้าร่วมของไต้หวัน เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อความครอบคลุมของฐานข้อมูลในระดับสากล เนื่องจากไต้หวันมีผลสัมฤทธิ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ดำเนินไปไกลกว่ามาตรฐานโลก ส่งผลให้ข้อมูลเชิงสถิติมีคุณค่าสำหรับการนำไปอ้างอิงอย่างน่าเชื่อถือในระดับสากล จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เหตุใด Dr. Philip จึงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วม พร้อมทั้งคิดเห็นว่า การเข้าร่วมของไต้หวัน จะส่งผลให้เครือข่ายฐานข้อมูลด้านสาธารณสุขโลก มีความครอบคลุมสมบูรณ์
 
ส่วนประเด็นคำถามที่สอง สื่อได้ซักถาม Dr. Otmar Kloiber เลขาธิการแพทยสมาคมโลกว่า เหตุใด WMA - TMA จึงสานสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน และพร้อมให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA อย่างหนักแน่นเสมอมา

Dr. Kloiber เน้นย้ำว่า ไต้หวันเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จในการบังคับใช้ระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับภาคประชาชน และเป็นหนึ่งในประเทศที่บรรลุเป้าหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage, UHC) มีระบบการแพทย์ขั้นพื้นฐานที่สมบูรณ์ และภาคประชาชนสามารถเข้าถึงได้ โดย Dr. Kloiber ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ระบบหลักประกันสุขภาพของไต้หวัน ได้บูรณาการศักยภาพของโรงพยาบาลและคลินิกเข้าสู่ระบบ ก้าวสู่การเป็นต้นแบบของประชาคมโลก นอกจากนี้ TMA ยังร่วมสานสัมพันธ์อันดีกับ WMA มาตลอดระยะเวลารวม 20 ปี จึงไม่แปลกที่ WMA จะให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA
 
สำหรับข้อซักถามในประเด็นสุดท้ายที่ระบุว่า แนวทางการเตรียมความพร้อมและรับมือ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะผลกระทบจากเชื้อไวรัสที่กระจายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และการส่งผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่มีต่อสุขภาพ

Dr. Jack Resneck Jr. ประธานแพทยสมาคมโลก คนปัจจุบัน ชี้แจงว่า ประเด็นเหล่านี้ไร้ซึ่งกรอบจำกัดของพรมแดน ทั่วโลกจำเป็นต้องเผชิญหน้าในการรับมือร่วมกัน พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรุนแรง หรือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ มุมมองและการกำหนดนโยบายของคณะแพทย์ ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไต้หวันมุ่งสั่งสมศักยภาพการป้องกันโรคระบาดมาตั้งแต่อดีตจนถึงสถานการณ์โรคโควิด – 19 ทำให้พวกเรามีประสบการณ์ในเชิงการปฏิบัติจริง และครองสถานภาพผู้นำ พร้อมจัดสร้างกรณีต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเพื่อเป็นหลักอ้างอิงให้แก่ประชาคมโลก จึงสามารถสรุปได้ว่า ไต้หวันมีศักยภาพที่เปี่ยมล้นและมีความรับผิดชอบสูง ที่สามารถสร้างคุณประโยชน์ที่ไม่สามารถขาดได้ในด้านการดูแลสุขภาพระดับสากล
 
การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ครั้งที่ 78 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้นในวันที่ 19 พ.ค. ณ กรุงเจนีวา โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 พ.ค. นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายชิงไท่หยวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการไต้หวัน ร่วมจัดงานแถลงข่าวขึ้น ณ ที่ทำการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประกาศจุดยืนของไต้หวันว่า พวกเรายินดีที่จะจับมือกับประชาคมโลก ในการส่งเสริมสุขภาพของมวลมนุษยชาติทั่วโลก พร้อมเรียกร้องให้ WHO ยืนหยัดในกฎบัตร อย่ายอมจำนนต่อปัจจัยการแทรกแซงทางการเมือง เร่งเปิดรับให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA และกิจกรรมภายใต้ WHO ทั้งนี้ เพื่อบรรลุไปสู่เป้าหมาย “ร่วมสร้างโลกที่แข็งแกร่ง” (One World of Health) ที่กำหนดไว้โดย WHO อย่างเป็นรูปธรรม
 
รมว.หลินฯ เน้นย้ำว่า อัตราความครอบคลุมของระบบประกันสุขภาพของไต้หวัน มีสัดส่วนสูงถึง 99% ไม่ว่าตัวจะอยู่แห่งหนใด หรือแม้แต่พื้นที่ชนบทที่ห่างไกล ก็สามารถได้รับการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ และการดูแลจากเครือข่ายความมั่นคงทางสังคม ซึ่งประชาคมโลกต่างรู้สึกสนใจต่อประสบการณ์เหล่านี้ของไต้หวัน ก่อนหน้านี้ WHO ได้มีการยื่นเสนอ “แผนปฏิบัติการด้สนสุขภาพของกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองโลก” โดยไต้หวันยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์การดูแลทางการแพทย์สำหรับกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองที่เปี่ยมคุณภาพ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาคมโลก
 
รมว.หลินฯ กล่าวว่า ในยุคสมัย AI เราสามารถยกระดับการเข้าถึงทางการแพทย์ได้ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ กต.ไต้หวันจึงได้มีกำหนดการจัด “กิจกรรมชี้แจงการประยุกต์ใช้การแพทย์อัจฉริยะ” โดยได้ติดต่อเชิญตัวแทนผู้ประกอบการ Acer Medical และ Quanta Computer เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์เชิงปฏิบัติ อันถือเป็นการประชาสัมพันธ์การแพทย์รูปแบบอัจฉริยะของไต้หวัน และสำแดงให้เห็นถึงสปิริต Taiwan can help รวมถึงศักยภาพฮาร์ดพาวเวอร์ ในฐานะที่ไต้หวันเป็นประเทศผู้นำในด้านไมโครชิปและเทคโนโลยีระดับโลก
 
เพื่อบรรลุแนวคิด “ไต้หวันสุขภาพดี” ที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ กต.ไต้หวันได้ยื่นเสนอ “โครงการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศพันธมิตร” และ “โครงการความหวังของชาติใน 8 มิติ” ซึ่งครอบคลุม “อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์อัจฉริยะ” โดยกต.ไต้หวัน  - สธ.ไต้หวัน ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ทีมบุคลากรการทูตเชิงการแพทย์” และร่วมจัดตั้ง “คณะที่ปรึกษาทางการแพทย์” ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ประกอบการและตัวแทนหน่วยงานการแพทย์ ควบคู่ไปกับการมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือทางการแพทย์เชิงลึกกับกลุ่มประเทศเป้าหมายนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ผ่านโครงการ 1 ประเทศ 1 ศูนย์การแพทย์ พร้อมทั้งคาดหวังที่จะเห็นการพัฒนาในรูปแบบ “การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการแพทย์” เพื่อการบูรณาการอุตสาหกรรมการแพทย์ ระหว่างเทคโนโลยีชีวภาพและการแพทย์ เข้ากับอุตสาหกรรมสารสนเทศ เพื่อมุ่งผลักดันไปสู่เวทีนานาชาติ
 
นอกจากนี้ บรรดาแกนนำและประธานร่วม “สโมสรฟอร์โมซา” (Formosa Club) ของกลุ่มประเทศทวีปยุโรป ซึ่งรวมถึงรัฐสภายุโรป รวมจำนวน 534 คนจาก 29 ประเทศ ก็ได้ร่วมลงนามในหนังสือเรียกร้องเพื่อยื่นส่งให้ Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHA ครั้งที่ 78 และกิจกรรมต่างๆ ของ WHO
 
สาระสำคัญในหนังสือเรียกร้อง ระบุว่า ไต้หวันถูกกีดกันให้อยู่ภายนอกระบบสาธารณสุขโลกมาเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากที่พวกเราจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ฉับไวแล้ว ยังไม่สามารถร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของตน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางสุขภาพระดับโลก โดยประธานร่วมสโมสรฯ เน้นย้ำว่า โรคระบาดซาร์ส (SARS) ในปี 2546 และโรคโควิด – 19 ในช่วงเริ่มต้นที่ปะทุขึ้นเมื่อปลายปี 2562 ไต้หวันได้ทำการส่งสัญญาณแจ้งเตือน แต่กลับถูกมองข้าม และไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่กลไกภายใต้ “กฎอนามัยระหว่างประเทศ” (International Health Regulations, IHR) จึงส่งผลให้เกิดรอยโหว่ครั้งรุนแรงขึ้น
 
นอกจากนี้ เนื้อความในหนังสือเรียกร้องยังได้ระบุว่า มิได้มีการหลักฐานทางนิตินัยที่ระบุถึงการกีดกันการเข้าร่วมของไต้หวัน พร้อมชี้ชัดข้อเท็จจริงของญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 และญัตติที่ประชุม WHA ฉบับที่ 25.1 ว่า มิได้มีการระบุถึงไต้หวัน อีกทั้งยังมิได้มีการมอบอำนาจให้รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนรัฐบาลไต้หวัน ในการเข้าร่วมระบบสหประชาชาติ นอกจากนี้  “สโมสรฟอร์โมซา” ของภูมิภาคยุโรป ซึ่งรวมถึงรัฐสภายุโรป เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เช็ก เบลเยี่ยมและแคนาดา ต่างก็มีมติชี้ชัดที่เรียกร้องให้มีการตีความญัตติ 2758 ในทิศทางที่ถูกต้อง พร้อมให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย
 
“สโมสรฟอร์โมซา” ภูมิภาคยุโรป เน้นย้ำว่า ประเด็นสุขภาพคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไต้หวันมีระบบการแพทย์ที่มั่นคงและจิตวิญญาณในการประสานความร่วมมือกับโลกนานาชาติ จึงควรที่จะได้รับการบรรจุเข้าสู่ WHO เพื่อเสริมสร้างความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือและการยอมรับซึ่งกันและกันขององค์การ ด้วยเหตุนี้ จึงขอเรียกร้องให้ WHO ยึดมั่นในหลักการค่านิยมสากล เส้นทางสายกลางและความเป็นมืออาชีพ ด้วยการฟื้นฟูสถานภาพของไต้หวันให้เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ เพื่อให้พวกเราร่วมอุทิศคุณูปการด้านสาธารณสุขโลก ตลอดจนเพื่อการพิชิตพันธกิจของ WHO ที่ว่า “ส่งเสริมสุขภาพ ปกป้องประชาคมโลก ช่วงพยุงผู้ด้อยโอกาส”
 
ในโอกาสนี้ กต.ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณต่อหุ้นส่วนในทวีปยุโรปที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยในอนาคต พวกเราจะยังคงเสริมสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับรัฐสภายุโปและรัฐสภาของนานาประเทศทั่วโลก เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นและสวัสดิการด้านสาธารณสุขโลก ให้เกิดความยั่งยืนสืบๆ ไป