New Southbound Policy Portal

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 20 พ.ค. 68
 
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้จัดพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ เพื่อให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติแก่ H.E. Surangel Whipps, Jr. ประธานาธิบดีสาธารณรัฐปาเลา ที่เดินทางเยือนไต้หวันพร้อมด้วยภริยา หลังจากที่รับชมพิธีต้อนรับและขบวนพาเหรดเสร็จสิ้นลง ปธน.ไล่ฯ และปธน. Whipps ก็ได้ทยอยขึ้นกล่าวปราศรัย
 
ปธน.ไล่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับปธน. Whipps และภริยา พร้อมด้วยคณะ นับเป็นอีกครั้งที่ปธน. Whipps เดินทางเยือนไต้หวัน นับตั้งแต่ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งในปีที่แล้ว
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ตราบจนปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกันมาเป็นปีที่ 26 แล้ว ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกันในการฝ่าฝันอุปสรรคนานาประการ ควบคู่ไปกับการมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ในเชิงลึก โดยเฉพาะหลายปีมานี้ ไต้หวันกำลังผลักดันตนเองก้าวสู่เวทีประชาคมโลกอย่างกระตือรือร้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากปธน. Whipps และรัฐบาลปาเลา ที่ร่วมส่งเสริมให้ไต้หวัน เข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ในอนาคต ไต้หวัน - ปาเลา จะประสานความร่วมมือกันสร้างคุณูปการที่เพิ่มพูนมากขึ้นให้แก่ประชาคมโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ดำเนินไปในทิศทางเชิงลึก ควบคู่ไปกับการสร้างผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือ ผ่านการเดินทางเยือนไต้หวันของปธน. Whipps ในครั้งนี้
 
ปธน. Whipps กล่าวปราศรัยว่า ไต้หวัน – ปาเลา เป็นประเทศพันธมิตรที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และเคารพซึ่งกันและกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่สันติภาพถูกถาโถมด้วยความท้าทาย และเสรีภาพต้องเผชิญหน้ากับโลกในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยบททดสอบ ปธน. Whipps รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่า ยังมีประเทศที่ยึดมั่นในจุดยืนของตนเอง มิใช่เพื่อการคุกคาม แต่เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพในปัจจุบัน มิใช่เพื่ออำนาจ แต่เพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักการ
 
จากนั้น ปธน.ไล่ฯ และรองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนหารือกับ ปธน. Whipps ณ ห้องโถงทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม “ข้อตกลงทางความร่วมมือทางเทคโนโลยี” และ “ข้อตกลงทางความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทางการทูต” โดยปธน.ไล่ฯ ขอขอบคุณปาเลาที่แม้จะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงยึดมั่นให้การสนับสนุนการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นความสัมพันธ์ทางความร่วมมือของสองประเทศ มุ่งขยายสู่ขอบเขตเชิงกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้สังคมและเศรษฐกิจแบบทวิภาคี มุ่งพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ ภายใต้การสนับสนุนของปธน. Whipps ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ปาเลา นับวันยิ่งทวีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ในปี 2565 ปธน.ไล่ฯ ได้มีโอกาสเดินทางเยือนปาเลาในฐานะรองปธน. เพื่อแสดงให้เห็นถึงการร่วมเผชิญหน้ากับความท้าทายของโรคระบาดระหว่างสองประเทศ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยว
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ทุกครั้งที่เดินทางเยือนหรือพบปะกับ ปธน. Whipps ตนรู้สึกเหมือนกับว่า ไต้หวัน – ปาเลา เปรียบเสมือนพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน เนื่องจากพวกเราเป็นประเทศที่โอบล้อมด้วยมหาสมุทร นอกจากจะมีวัฒนธรรมและสายเลือดร่วมกันของกลุ่มชนชาวออสโตรนีเซียนแล้ว ยังเป็นพันธมิตรที่ยึดมั่นในค่านิยมเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนร่วมกันอีกด้วย
 
ไต้หวัน – ปาเลา ต่างมุ่งประสานความร่วมมือและแลกเปลี่ยนกันอย่างแนบแน่น ทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การศึกษา การเกษตรและประมง รวมถึงการแพทย์ การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และวัฒนธรรมการกีฬา เป็นต้น
 
เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ปาเลายังคงยึดมั่นในความกล้าหาญและหลักการประชาธิปไตย ด้วยการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ อาทิ การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) องค์การอนามัยโลก (WHO) การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) และการประชุมสหประชาชาติด้านมหาสมุทร (UNOC) พลังเสียงและแรงสนับสนุนที่ปาเลามีต่อไต้หวัน ไม่เคยขาดช่วงเลย ทำให้พวกเรารู้สึกอบอุ่นและชื่นชมยินดีเป็นอย่างมาก
 
ปธน. Whipps ระบุว่า ภายใต้ความมุ่งมั่นพยายามของปธน.ไล่ฯ การแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน – ปาเลา ดำเนินไปอย่างใกล้ชิดแนบแน่น ผู้ประกอบการไต้หวันหลายรายต่างมุ่งหน้าเข้าสำรวจโอกาสในปาเลาอย่างขมักเขม้น ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากมาย ซึ่งศักยภาพผู้นำของปธน.ไล่ฯ สื่อให้เห็นถึงความหวัง ความสามัคคีและความก้าวหน้าทางเสรีภาพและประชาธิปไตย ซึ่งไม่เพียงเฉพาะไต้หวันเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์ กลุ่มประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ก็พลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย
 
หลังเสร็จสิ้นการพูดคุยหารือ พิธีลงนามก็เริ่มต้นขึ้น ปธน.ไล่ฯ และปธน. Whipps ต่างให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่าง “ข้อตกลงทางความร่วมมือทางเทคโนโลยี” และ “ข้อตกลงทางความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทางการทูต” ของนายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน และ Mr. Gustav Aitaro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปาเลา
 
ในช่วงค่ำของวันเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ และรองปธน.เซียวฯ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารต้อนรับ ปธน. Whipps โดยปธน.ไล่ฯ หวังที่จะกระตุ้นการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวและความร่วมมือด้านการกีฬาแบบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง
 
ปธน.ไล่ฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า นอกจากการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวแล้ว เมื่อปีที่แล้ว ในระหว่างที่ปธน.ไล่ฯ เดินทางเยือนปาเลา ก็ได้ยื่นเสนอว่า พวกเราสามารถร่วมผลักดันความร่วมมือทางการกีฬา ผ่านการจัดการฝึกอบรมในต่างพื้นที่ ในเดือนหน้านี้ ปาเลามีกำหนดการจัด “การแข่งขันการกีฬาในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิก” ซึ่งขณะนี้ ตัวแทนทีมชาติเบสบอลและเทเบิลเทนนิสของปาเลา ได้เข้ารับการฝึกอบรมในไต้หวันแล้ว ซึ่งรัฐบาลไต้หวันจะให้สนับสนุนกลุ่มเป้าหมายอย่างเต็มกำลัง ณ โอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ขออวยพรให้บรรดานักกีฬาปาเลา สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่น เพื่อคว้าเอาชัยชนะมาครองในรายการการแข่งขันประเภทต่างๆ
 
ปธน. Whipps แถลงว่า แผนผลักดันทางการทูต ศักยภาพผู้นำและวิสัยทัศน์ของ ปธน.ไล่ฯ ล้วนแต่สร้างความประทับใจให้แก่ปาเลาเป็นอย่างมาก การสนับสนุนที่ไต้หวันมีต่อกลุ่มประเทศพันธมิตรและบรรดามิตรประเทศ รวมถึงการให้คำมั่นในการช่วยพัฒนาความยั่งยืนและการยอมรับซึ่งกันและกัน ล้วนแต่สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ภาคประชาชนชาวปาเลาเป็นอย่างมาก  
 
ปธน. Whipps ระบุถึงทิศทางในอนาคตว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายนานาประการ  ตั้งแต่ความมั่นคงไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความสามัคคีถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญยิ่ง การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงและสุขภาพ มีความสำคัญต่อประชาคมโลกและปาเลาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเราทราบดีว่า การกำหนดนโยบายที่มีไต้หวันเข้าร่วม จะทำให้โลกพัฒนาไปสู่อีกมิติที่ดียิ่งขึ้น
 
ปธน. Whipps ประกาศแจ้งว่า ในปี 2569 ปาเลามีกำหนดการจัด “การประชุมสัมนาของกลุ่มประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก” โดยจะประสานความร่วมมือกับไต้หวันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่า การประชุมจะจัดขึ้นอย่างราบรื่นประสบความสำเร็จ และจะร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างหนักแน่น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ปาเลาจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างไต้หวันอย่างหนักแน่นเสมอไป
 
ปธน. Whipps คาดหวังที่จะร่วมเปิดบริบททางความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด การศึกษา การแพทย์อัจฉริยะและการท่องเที่ยว ระหว่างไต้หวัน – ปาเลา ในภายภาคหน้าต่อไป เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในการก้าวสู่พลังความแข็งแกร่งต่อไป