New Southbound Policy Portal
กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 21 พ.ค. 68
เพื่อเสริมสร้างกลไกความร่วมมือแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน – ฝรั่งเศส ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาคมฝรั่งเศสในไต้หวัน และสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันในฝรั่งเศส จึงได้จัดพิธีลงนาม “บันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางอุตสาหกรรม” โดยมีนายโจวอวี่ซิน รองผู้อำนวยการสำนักการพัฒนาอุตสาหกรรม ภายใต้กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน และตัวแทนเจ้าหน้าที่รัฐบาลฝรั่งเศส เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
การลงนาม MoU ในครั้งนี้ มีหลักการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้ง “แพลตฟอร์มนวัตกรรมเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรม” ที่ธนาคาร Bpifrance สถาบันเพื่อการลงทุนแห่งชาติของฝรั่งเศส และสำนักการพัฒนาอุตสาหกรรมไต้หวัน ได้ร่วมลงนามไปเมื่อครั้งอดีต และตั้งอยู่บนรากฐานทางความร่วมมือของ “โครงการ A+ Industrial Innovative R&D Program” ที่บริหารโดยกรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จึงสามารถสรุปได้ว่า การลงนาม MoU ในครั้งนี้ จะเป็นการสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายร่วมสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการวิจัยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือทางอุตสาหกรรม อาทิเช่น ความร่วมมือในการวิจัยประยุกต์ขั้นสูง การพัฒนาเชิงทดลอง และนวัตกรรม เป็นต้น ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะพุ่งเป้าไปในทิศทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านกลไกความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดจากฐานความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งเสริมสร้างประโยชน์แก่กันในการประสานงานและบูรณาการโครงการเงินทุนแบบทวิภาคี ตลอดจนเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมที่เรียงลำดับความสำคัญระดับประเทศของทั้งสองฝ่าย อันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ เพื่อบรรลุประสิทธิผลตาม MoU ข้างต้น พวกเราจะจับมือกับรัฐบาลฝรั่งเศส ในการมุ่งผลักดันโครงการความร่วมมือแบบทวิภาคี ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาเชิงนวัตกรรม และมีศักยภาพในการพัฒนาทางอุตสาหกรรม ภายใต้การชี้แนะของสำนักการพัฒนาอุตสาหกรรมและกรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของไต้หวัน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางภาคธุรกิจ ระหว่างไต้หวัน - ฝรั่งเศส เพื่อกระตุ้นความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยี อันจะนำไปสู่การเปิดบริบทโอกาสใหม่ทางความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรมระหว่างกันในภายภาคหน้า
ในวันเดียวกันนี้ นายเลี่ยวเฉิงเวย อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (TIPO) ภายใต้กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน และ Mr. Pascal Faure อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาของฝรั่งเศส (INPI) ได้ร่วมลงนาม “หนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยโครงการนำร่อง สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลผลการตรวจสอบสิทธิบัตร” (Patent Prosecution Highway, PPH) โดยมีนางห่าวเผยจือ ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำฝรั่งเศส และ Mr. Frank Paris ผู้อำนวยการสมาคมฝรั่งเศสในไต้หวัน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีฯ ซึ่ง PPH ระหว่างไต้หวัน - ฝรั่งเศส คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 สื่อให้เห็นถึงการก้าวสู่หลักชัยใหม่ทางความร่วมมือแบบทวิภาคีด้านทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างไต้หวัน – ฝรั่งเศส
PPH เป็นกระบวนการตรวจสอบสิทธิบัตรแบบทวิภาคีอย่างเร่งด่วน ซึ่งสามารถช่วยลดภาระการตรวจสอบซ้ำ และเป็นการยกระดับคุณภาพการตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการแบ่งปันข้อมูลการค้นหาและผลการตรวจสอบของหน่วยงานที่ดูแลกำกับด้านสิทธิบัตรโดยตรง เชื่อว่า PPH ระหว่างไต้หวัน - ฝรั่งเศส จะช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถยื่นขอรับสิทธิบัตรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการวางรากฐานสิทธิบัตรให้ครอบคลุมทั่วโลก
นับตั้งแต่ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาไต้หวัน และสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USPTO) ได้ประสานความร่วมมือกัน ภายใต้ PPH เป็นต้นมาในปี 2554 ไต้หวันก็ได้ทยอยลงนาม PPH ในลักษณะเดียวกันร่วมกับญี่ปุ่น สเปน เกาหลีใต้ โปแลนด์และแคนาดา ซึ่งฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับที่ 7
อธิบดีเลี่ยวฯ เผยว่า ในปี 2566 ฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไต้หวัน และเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ยอดการค้าแบบทวิภาคี มีมูลค่ารวมกว่า 6,538 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ