New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 30 พ.ค. 68
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นายเฉินหมิงฉี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Ms. Yvonne Man ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ Bloomberg TV ที่ประจำการในฮ่องกง นางหลินเมี่ยวหรง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Bloomberg สาขากรุงไทเป และนายหลี่อี้อัน นักข่าวประจำกรุงไทเป โดยรมช.เฉินฯ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับจุดยืนนโยบายและทิศทางการพัฒนาในอนาคตของไต้หวัน ในประเด็นที่สังคมภายนอกเฝ้าจับตาให้ความสนใจ อาทิ ความคืบหน้าของการเจรจาทางการค้า ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ นโยบายภาษีศุลกากรสหรัฐฯ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลดอลลาร์ไต้หวันใหม่ และความร่วมมือด้านพลังงาน เป็นต้น โดยในช่วงค่ำของวันเดียวกันนั้น สถานีโทรทัศน์ Bloomberg ได้ทำการเผยแพร่รายงานข่าว รวมทั้งสิ้น 2 ฉบับ พร้อมทั้งตีพิมพ์รายงานข่าวลงเว็บไซต์ รวม 2 ฉบับ แสดงให้เห็นว่า ประชาคมโลกให้ความสำคัญต่อทิศทางการพัฒนาในอนาคตของไต้หวัน
รมช.เฉินฯ กล่าวว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ยังคงอยู่ระหว่างขั้นตอนกระบวนการที่ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีรายละเอียดบางส่วนที่ยังคงต้องแจกแจงรายละเอียดปลีกย่อยให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม พวกเรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีงาม สมบูรณ์และสวยงามได้สำเร็จ ก่อนวาระสิ้นสุดการชะลอภาษีตอบโต้ในจำนวน 90 วัน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมจัดตั้งความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์แก่กัน ผ่านข้อตกลงข้างต้น
ต่อกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเรียกเก็บอัตราภาษีขั้นสูงสำหรับสินค้าบางรายการ รมช.เฉินฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันหวังที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ “หากประเทศอื่นถูกเรียกเก็บ 10% เราก็หวังที่จะถูกเรียกเก็บน้อยกว่า 10%” พร้อมชี้แจงว่า อัตราภาษีขั้นสูงอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของผู้ประกอบการ และอาจทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนในสหรัฐฯ ของกลุ่มผู้ประกอบการเลย ด้วยเหตุนี้ เราจึงเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ มุ่งพิจารณานโยบายที่เกี่ยวข้องโดยอ้างอิงจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในภาพรวม
รมช.เฉินฯ ชี้แจงว่า ในระหว่างการเจรจา รัฐบาลไต้หวันได้ชี้ชัดจุดยืนเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของกลุ่มเกษตรกรและการสร้างหลักประกันความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่ไปกับการแสดงออกถึงความจริงใจในการเปิดกว้างของระบบตลาดเสรี โดยรมช.เฉินฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของการเจรจาคือการปรับให้ความคาดหวังของทั้งสองเกิดความสมดุลกัน และใส่ใจต่อประเด็นที่ฝ่ายสหรัฐฯ ให้ความสำคัญอย่างเป็นรูปธรรม โดยไต้หวันจะเดินหน้าผลักดันการเจรจาด้วยทัศนคติและแนวทางที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง
ในประเด็นด้านพลังงาน รมช.เฉินฯ ชี้แจงว่า พวกเราได้รับเชิญจากรัฐบาลสหรัฐฯ และได้ทำการมอบหมายให้คณะตัวแทนระดับสูงเข้าร่วม “การประชุมด้านพลังงานที่ยั่งยืน” ที่มีกำหนดการจัดขึ้นในรัฐอลาสกาในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยจะทำการแลกเปลี่ยนกันในประเด็นการจัดซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งระบุว่า ไต้หวันได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจต่อโครงการ LNG ในรัฐอลาสกาและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวัน ในการเสริมสร้างมิติความหลากหลายของระบบห่วงโซ่อุปทานด้านพลังงาน
สำหรับประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนสกุลดอลลาร์ไต้หวันใหม่ รมช.เฉินฯ ชี้แจงว่า อัตราแลกเปลี่ยนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นการเจรจาทางการค้า ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เนื่องด้วยไต้หวันเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีเสรีทางการค้า การเคลื่อนไหวของค่าเงินเป็นผลมาจากปัจจัยทางการตลาด ในปัจจุบัน ค่าเงินของหลายประเทศในเอเชียกำลังแข็งค่าขึ้น ซึ่งไม่เว้นแม้แต่สกุลดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ที่สามารถสังเกตเห็นได้ว่า พวกเราก็อยู่ในการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในขอบเขตที่เหมาะสมเช่นกัน
ต่อประเด็นข่าวลือที่ภาคประชาสังคมเล่าขานกันว่า “การแข็งค่าของดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ถือเป็นมาตรการเพื่อการเอาอกเอาใจสหรัฐฯ” นั้น รมช.เฉินฯ กล่าวว่า “คำกล่าวอ้างเช่นนี้ เป็นการประเมินศักยภาพและความสมัครใจของธนาคารกลางไต้หวันไว้สูงจนเกินไป” พร้อมระบุว่า ธนาคารกลางไต้หวันเคารพตามกลไกการตลาดอย่างเคร่งครัดเสมอมา และโดยปกติแล้ว จะไม่เข้าแทรกแซงระบบอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจะเข้าทำการปรับพิจารณารายละเอียดปลีกย่อย ก็ต่อเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวที่ผันผวนเกินไป หรือมีแนวโน้มที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภาพรวม
Bloomberg ถือเป็นหนึ่งในสื่อการเงินและเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลในระดับสากล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก โดยได้รับความสำคัญจากแวดวงนักการเมือง ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการเงินและผู้ประกอบการข้ามชาติ