New Southbound Policy Portal
สภาบริหารและกระทรวงมหาดไทย วันที่ 2 ก.ค. 68
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 นายจั๋วหรงไท่ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ได้เข้าร่วมพิธีเปิด “นิทรรศการแสดงผลงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย” ที่เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าซีเหมินติง ทางออก 5 โดยมีกำหนดการจัดขึ้นจนถึงวันที่ 30 ก.ค. 68
นรม.จั๋วฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ประกาศให้เดือนกรกฎาคม เป็น “เดือนแห่งความสามัคคีแห่งชาติ” โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นภาคประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลไกความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อประเทศชาติและสังคมที่มั่นค ตลอดจนเพื่อพิชิตสู่เป้าหมายการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของภาคประชาชน
วัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการพิเศษในครั้งนี้ นรม.จั๋วฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นประชาชนร่วมทำความเข้าใจกับแนวทางการได้รับความคุ้มครองจากประเทศชาติ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตภัยธรรมชาติหรือความขัดแย้ง โดยรัฐบาลจะมุ่งเตรียมการให้พร้อมอย่างรัดกุม เพื่อส่งเสริมให้ภาคประชาชนได้รับการคุ้มครองที่มั่นคงปลอดภัยกันโดยถ้วนหน้า
นรม.จั๋วฯ กล่าวว่า สถานการณ์โลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสงครามรัสเซีย - ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่เกิดการปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรูปแบบสงครามในปัจจุบัน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่สามารถคาดเดาได้ ภัยคุกคามทั้งทางบก ทางทะเล หรือทางอากาศ ล้วนแต่มีการปรากฎให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไต้หวันที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระยะห่วงโซ่ที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ พวกเรายังคงต้องเผชิญหน้ากับการถูกรุกรานจากเครื่องบินรบและเรือรบ ซึ่งนอกจากความขัดแย้งระหว่างประเทศแล้ว ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความมั่นคงของภาคประชาชนได้ทุกเมื่อ ซึ่งยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ทุกคนในประเทศชาติควรเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือในการป้องกันภัยพิบัติอย่างสามัคคี
เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน 2568 มี 8 เขตเทศบาลในไต้หวันที่ได้ทยอยจัด “การฝึกซ้อมความยืดหยุ่นในพื้นที่เมือง – ชนบท ประจำปี 2568” (2025 Urban Resilience (Air-Defense) Exercise) โดยในช่วงระหว่างวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2568 จะจัดให้มีการผนวกรวมเข้ากับการฝึกซ้อมรบประจำปีฮั่นกวง ภายใต้รหัส 41 โดยจะทยอยจัดการซ้อมรบในรูปแบบจำลองสถานการณ์จริงขึ้นในพื้นที่นครไทจง ไถหนานและกรุงไทเป
นรม.จั๋วฯ แถลงเพิ่มเติมว่า นอกจากการเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อมรบแล้ว รัฐบาลยังได้เตรียมความพร้อมด้านข้อบังคับใช้ทางกฎหมายควบคู่ไปด้วย หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 3 เมษายน 2568 ตามเวลาในเขตพื้นที่ไต้หวันแล้ว ภายในเวลา 48 ชั่วโมง รัฐบาลไต้หวันก็ได้รวบรวมยื่นเสนอ “แผนปฏิบัติการสนับสนุนระบบห่วงโซ่อุปทานการส่งออกของไต้หวัน เพื่อรับมือกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ” หลังจากนั้น ยังได้มีการยื่นเสนอ “ข้อบังคับใช้ในกรณีพิเศษว่าด้วยการเสริมสร้างความทรหดทางเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงในดินแดนประเทศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ” โดยรัฐบาลได้วางแผนจัดสรรงบประมาณไว้จำนวน 410,000 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นแผนการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม มูลค่า 93,000 ล้านเหรียญไต้หวัน การสนับสนุนภาคประชาสังคม 167,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ในจำนวนนี้ ยังรวมไปถึงการอัดฉีดเงินจำนวน 100,000 ล้านเหรียญไต้หวันให้แก่บริษัทการไฟฟ้าไต้หวัน (Taiwan Power Company) เพื่อให้โครงสร้างการเงินของบริษัทฯ มีหลักประกันที่ครอบคลุมสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้จัดสรร 150,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ไว้สำหรับการเสริมสร้างความทรหดด้านความมั่นคงของดินแดนประเทศชาติ โดยจะมอบอำนาจให้กระทรวงกลาโหม คณะกรรมการกิจการทางทะเล กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตร เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการจัดการเป็นลำดับต่อไป ตราบจนปัจจุบัน ข้อบังคับใช้ในกรณีพิเศษข้างต้นนี้ ได้ยื่นเสนอให้สภานิติบัญญัติพิจารณาแล้วเป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สภานิติบัญญัติจะให้การสนับสนุน ด้วยการลงมติเห็นชอบ ทั้งนี้ เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป
นรม.จั๋วฯ ระบุว่า นิทรรศการพิเศษในครั้งนี้ เราสามารถเล็งเห็นว่ากระทรวงมหาดไทย ได้จัดเตรียมพร้อมในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับความทรหดทางความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งการจัดเตรียมอุปกรณ์การช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉินโดยศูนย์บรรเทาป้องกันสาธารณภัย การตรวจสอบและธำรงรักษาโครงการพื้นฐานที่สำคัญภายในประเทศ การตระเตรียมอาคารสิ่งก่อสร้างสาธารณะ เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถใช้ป็นที่หลบภัยชั่วคราว เป็นต้น อีกทั้งยังต้องการสื่อให้ภาคประชาชนร่วมตระหนักว่า อย่าได้วิตกกังวลหรือตื่นตูมเกินกว่าเหตุ ประเทศชาติจะเตรียมการให้พร้อม เพื่อให้ภาคประชาชนได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นรม.จั๋วฯ ยังได้เรียกร้องให้ภาคประชาชนและรัฐบาล ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตาม “3 กฎเหล็ก” ที่ประกอบด้วย (1) ร่วมกันดาวน์โหลด APP ให้บริการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ APP ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (2) ร่วมกันจัดเตรียมเวชภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการหลบภัย และ (3) ให้ความร่วมมือต่อแนวทางการหลบภัยทางอากาศที่ประกาศโดยรัฐบาล
นายหลิวซื่อฟาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้ว่า การจัดเตรียมความพร้อมในการซ้อมหลบภัยทางอากาศ นอกจากจะจัดขึ้นในรูปแบบการฝึกซ้อมเพื่อให้ประชาชนเกิดความคุ้นชินแล้ว ยังควรที่จะยกระดับศักยภาพการตอบสนองที่ว่องไวของภาคประชาชน เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์แปรปรวนสุดขั้ว
กระทรวงมหาดไทย แถลงปิดท้ายว่า นิทรรศการในครั้งนี้ได้รับการออกแบบจัดขึ้น รวม 3 โซนหลัก ได้แก่ “แนวทางการหลบภัยทางอากาศ” “การกำหนดแบ่งเขตพื้นที่สำหรับการหลบภัยทางอากาศ” และ “การตระเตรียมความพร้อมด้านเวชภัณฑ์ที่จำเป็น” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ภาคประชาชน รับทราบเส้นทางการมุ่งหน้าสู่สถานที่หลบภัยทางอากาศในพื้นที่บริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งจัดนำเสนอมาตรการต่างๆ สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือในชีวิตประจำวัน และการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินอย่างเกิดประสิทธิภาพ