New Southbound Policy Portal

ปธน. ไล่ฯ ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากมูลนิธิเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติของสหรัฐฯ หวังสานต่อความร่วมมือกับประชาคมประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อธำรงคุณค่าแห่งประชาธิปไตยและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ แห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากมูลนิธิเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Endowment for Democracy: NED) แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เดินทางมาเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ มูลนิธิ NED ได้มีความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นกับองค์กรพลเมืองของไต้หวันมาโดยตลอด และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังได้ให้การสนับสนุนภาคประชาสังคมของไต้หวันในการออกสู่เวทีโลก รวมถึงสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับองค์กรด้านการพัฒนาของเอกชนจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อช่วยให้ไต้หวันมีบทบาทสำคัญในเครือข่ายประชาธิปไตยระดับโลก

จากดัชนีประชาธิปไตยของ “The Economist Intelligence Unit” ไต้หวันได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และได้รับการประเมินว่าเป็น “ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์” (Full Democracy) ขณะที่ในรายงาน “ดัชนีเสรีภาพโลก” ของ “Freedom House” ไต้หวันครองอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชีย ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไต้หวัน และยังสะท้อนถึงการสนับสนุนจากนานาประเทศต่อความพยายามของไต้หวัน

ประธานาธิบดีไล่ฯ กล่าวว่า เช่นเดียวกับที่ประธานเดมอน วิลสัน (Damon Wilson) ได้กล่าวไว้ในครั้งที่แล้วที่มาเยือนไต้หวันว่า “ความรุ่งเรืองของประชาธิปไตยในไต้หวันนั้นเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความมั่นคงของไต้หวัน” ท่ามกลางการขยายตัวของลัทธิเผด็จการ ไต้หวันจะไม่เพียงแต่ยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันตนเองและสร้างจิตสำนึกในการปกป้องชาติของประชาชนให้เข้มแข็งขึ้น แต่ยังจะร่วมมือในเชิงลึกกับประเทศพันธมิตรแห่งประชาธิปไตย ทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ เพื่อร่วมกันสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง ป้องกันการแทรกซึมของอำนาจเผด็จการ และเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับประชาธิปไตยของไต้หวัน

ประธานวิลสันกล่าวว่า การมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาชนไต้หวันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และส่งเสริมความเป็นปึกแผ่นของระบอบประชาธิปไตย โดยหวังจะจัดตั้งความร่วมมือใน 4 ด้านสำคัญ พร้อมทั้งผลักดันให้เสียงและองค์กรของไต้หวันได้รับความสนใจในเวทีนานาชาติ และร่วมกันหารือเกี่ยวกับอนาคตของประชาธิปไตย รวมถึงหลักเสรีภาพสากล ฯลฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ไต้หวันที่เคยถูกกีดกัน ได้มีโอกาสเข้าร่วมในเวทีนานาชาติมากขึ้น และสนับสนุนให้องค์กรระดับนานาชาติเข้ามาจัดตั้งสำนักงานในไต้หวัน เช่น “สถาบันรีพับลิกันนานาชาติ” (International Republican Institute: IRI) และ “สถาบันประชาธิปไตยนานาชาติ” (National Democratic Institute: NDI) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่าย

ประธานวิลสันยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หวังจะช่วยเหลือให้องค์กรในไต้หวันสามารถเปิดเผยให้ชาวโลกเข้าใจถึงการทำสงครามด้านการรับรู้ (Cognitive Warfare) และแรงกดดันจากลัทธิเผด็จการที่ถาโถมมายังไต้หวัน รวมถึงต่อสังคมเสรีนิยมทั่วโลก พร้อมหวังว่าจะสามารถร่วมมือกับองค์กรและผู้ประกอบการของไต้หวันที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยและเสรีภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะถูกใช้ในทางที่เหมาะสม และเรื่องราวของไต้หวันหรือทิเบตจะไม่ถูกลบเลือนหรือถูกเซ็นเซอร์ แต่จะได้รับการเปิดเผย