New Southbound Policy Portal

ปธน.และรองปธน.ไต้หวัน ให้การต้อนรับการเดินทางเยือนไต้หวันของคณะตัวแทนมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย (FDD) จากสหรัฐฯ พร้อมแสดงความขอบคุณต่อคณะตัวแทนที่ร่วมระดมกำลังในการแก้ปัญหาความยืดหยุ่นในภาคประชาสังคมของไต้หวัน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะกระชับความร่วมมือแบบทวิภาคีในเชิงลึกต่อไป

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 1 ส.ค. 68
 
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย (Foundation for Defense of Democracies, FDD)” ซึ่งเป็นคลังสมองของสหรัฐฯ โดยปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ มีเพียงพันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลกประสานความร่วมมือกันอย่างสามัคคี จึงจะสามารถปกป้องไว้ซึ่งค่านิยมและวิถีชีวิตรูปแบบประชาธิปไตยและเสรีภาพ ที่พวกเราร่วมยึดมั่นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า มูลนิธิ FDD มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในบรรดาคลังสมองของสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะมุ่งผลักดันการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แล้ว ยังมักจะส่งมอบคำชี้แนะทางนโยบาย และยื่นเสนอรายงานจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ว่าด้วย “การปกป้องมิให้ค่านิยมด้านประชาธิปไตยถูกคุกคามจากลัทธิอำนาจนิยม” อย่างกระตือรือร้น ในโอกาสนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อมูลนิธิ FDD ที่เฝ้าจับตาต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันมาเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังยกระดับการให้ความสำคัญต่อประเด็นการปกป้องไต้หวัน และความยืดหยุ่นในภาคประชาสังคม โดยปธน.ไล่ฯ หวังที่เห็นคณะผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ ทยอยชูเสนอข้อชี้แนะที่เป็นประโยชน์ต่อไต้หวันในประเด็นข้างต้นเหล่านี้ต่อไป
 
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ จีนยังคงทวีสร้างพฤติกรรมการรุกรานทางทหารในพื้นที่ทะเลตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้และพื้นที่รายรอบอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด การแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างความมั่นคงระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาสากล ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างไม่เคยมีมาก่อน มีเพียงพันธมิตรประชาธิปไตยโลกจับมือกันอย่างสามัคคี พร้อมทั้งประยุกต์ใช้มาตรการรับมืออย่างเหมาะสม จึงจะสามารถปกป้องไว้ซึ่งค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและวิถีชีวิตในรูปแบบสิทธิมนุษยชน
 
ปธน.ไล่ฯ แถลงเพิ่มเติมว่า ไต้หวันในปัจจุบันนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศชาติแล้ว ยังร่วมแบกรับความรับผิดชอบที่สำคัญในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก โดยไต้หวันจะมุ่งยกระดับศักยภาพทางกลาโหม จัดตั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพผู้นำความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันที่มีหลักการและคงเสถียรภาพ ตลอดจนมุ่งผลักดันการทูตเชิงค่านิยม มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาค ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองระดับสากล
 
ปธน.ไล่ฯ เผยว่า บทบาทไต้หวันในระบบห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยี เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลก นอกจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว พวกเรายังมุ่งพัฒน่าความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สำคัญ อาทิ เทคโนโลยีกลาโหมและเทคโนโลยี AI
 
การที่ไต้หวัน - สหรัฐฯ มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในด้านสำคัญและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันแล้ว ยังสามารถสร้างหลักประกันทางความมั่นคงในระบบห่วงโซ่อุปทานไว้ได้ ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของไต้หวัน สหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตย โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวัน - สหรัฐฯ มุ่งกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือให้เกิดความแนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาธิปไตยดำเนินไปในทิศทางเชิงลึกอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

Mr. Matthew Pottinger อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า การเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเสริมสร้างความร่วมมือกับ “สถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยี ประชาธิปไตยและสังคม” (Research Institute for Democracy , Society and Emerging Technology, DEST) ซึ่งเป็นคลังสมองของไต้หวัน และทุกแวดวงในภาคประชาสังคมของไต้หวัน นอกจากนี้ ยังมีหุ้นส่วนที่มาจากญี่ปุ่น ออสเตรเลียและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมการวิเคราะห์และจำลองสถานการณ์ทางกลาโหมที่จัดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ เพื่อทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับสถานการณ์ความเป็นไปได้ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ผู้ไม่ประสงค์ดี ต้องการจะข่มขู่และสร้างภัยคุกคามต่อสังคมเสรีในไต้หวัน
 
Mr. Pottinger กล่าวว่า คณะตัวแทนต่างรู้สึกประทับใจในการเข้าร่วมสถานการณ์การจำลองทางทหารในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ด้วยแนวคิดที่แยบยลและศักยภาพการรับมือที่รัดกุมของทุกภาคส่วน ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่คณะตัวแทนว่า ไต้หวัน - พันธมิตรของไต้หวัน จะมีศักยภาพในการสกัดกั้นและรับมือกับภัยคุกคามและวิกฤตทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ก็ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนมูลนิธิ FDD พร้อมทั้งระบุว่า “ความยืดหยุ่น” เป็นหนึ่งในรายการนโยบายที่ปธน.ไล่ฯ มุ่งให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในโอกาสนี้ รองปธน.เซียวฯ จึงได้แสดงความขอบคุณต่อคณะตัวแทนที่ได้ช่วยเสาะหาและอุดช่องโหว่ของความไม่สมบูรณ์ในกลไกความยืดหยุ่นทางภาคประชาสังคม พร้อมยื่นเสนอแผนโซลูชันในการปรับปรุงแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
 
หลังเข้ารับตำแหน่งไม่นาน ปธน.ไล่ฯ ได้ประกาศจัดตั้ง “คณะกรรมการความยืดหยุ่นในการปกป้องภาคประชาสังคม” พร้อมผลักดันภารกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลายรายการ การที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายนานับประการทุกวัน เป็นการแจ้งเตือนให้พวกเราตระหนักถึงความสำคัญของ “ความยืดหยุ่น” อันจะเห็นได้จากการที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับภัยธรรมชาติที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นเมื่อช่วงที่ผ่านมา รวมถึงแรงกดดันที่เกิดจากเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า การขนส่งพลังงานและระบบสารสนเทศ ซึ่งวิกฤตความท้าทายเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ก่อเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ความผันผวนแบบสุดขั้วเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อนในระหว่างที่ไต้หวันต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติ โดยรองปธน.เซียวฯ ได้ใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณต่อคณะตัวแทน ที่เฝ้าจับตาต่อประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งจับมือในการร่วมแสวงหาแผนโซลูชันที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกับพวกเราอย่างกระตือรือร้น