New Southbound Policy Portal

กระทรวงพัฒนาดิจิทัล วันที่ 7 ส.ค. 68
 
นายหวงเยี่ยนหนาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัลของไต้หวัน (Ministry of Digital Affairs, MODA) ได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2568 เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (Digital and AI Ministerial Meeting) ประจำปี 2568 ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation, APEC) โดยการประชุมในครั้งนี้จัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี AI เพื่อมุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรืองและการเติบโตที่ยั่งยืน สำหรับภาคประชาชนโดยถ้วนหน้า” (Digital and AI Transformation toward Prosperity and Sustainable Growth for All) โดยรมว.หวงฯ เน้นย้ำว่า พวกเราจะคว้าทุกโอกาสในการเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ เพื่อนำเสนอความยืดหยุ่นทางดิจิทัลของไต้หวัน ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลกอย่างกระตือรือร้น ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงลึกในระดับภูมิภาค อันจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของไต้หวัน ในภายภาคหน้าต่อไป
 
ระหว่างการประชุม เจ้าหน้าที่ตัวแทน MODA และกระทรวงวิทยาศาสตร์และ ICT ของเกาหลีใต้ (Ministry of Science and ICT ,MSIT) รวมถึงผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก 21 เขตเศรษฐกิจ ต่างร่วมกันประกาศแถลงการณ์รัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องดิจิทัลและ AI ซึ่งนับเป็นฉบับแรกของ APEC โดยเนื้อความในแถลงการณ์ข้างต้น มุ่งเน้นไปที่การประยุกต์ใช้ AI , การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล , ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ , ความเท่าเทียมทางดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้นานาประเทศทั่วโลกจับมือกันจัดตั้งระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อถือได้ มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งสาระสำคัญเหล่านี้ ล้วนแต่สอดรับต่อเป้าหมาย “การเสริมสร้างกลไกการปราบปรามการฉ้อโกงอย่างกระตือรือร้น” , “การยกระดับความยืดหยุ่นทางดิจิทัล” และ “การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล” ของ MODA อย่างลงตัว
 
รมว.หวงฯ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอให้เห็นถึงศักยภาพทางดิจิทัลของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการชี้แจงต่อเขตเศรษฐกิจเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นรูปธรรมในด้าน “การส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและ AI เพื่อรับมือกับความท้าทายทางระบบเศรษฐกิจในสังคม” รวมไปถึง “การเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางดิจิทัลของภาคประชาชน” อนึ่ง รมว.หวงฯ ยังได้ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการกลยุทธ์การพัฒนาทางสังคม ผ่านโครงการ “On AI (One Network, All People Included)” และ “อินเทอร์เน็ตสำหรับภาคประชาชน” เพื่อให้แน่ใจว่า ภาคประชาชนจะได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและมั่นคง นอกจากนี้ รมว.หวงฯ ยังได้บรรยายว่า การจัดตั้งระบบนิเวศ AI ของไต้หวัน จำเป็นต้องพึ่งพา 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ “การส่งเสริมนวัตกรรม” , “ความน่าเชื่อถือที่มั่นคง” และ “ความเท่าเทียมในสังคม” อีกทั้งยังเน้นย้ำความสำคัญของความโปร่งใสและการเข้าร่วมของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากคณะตัวแทนที่เข้าร่วมการประชุม
 
รมว.หวงฯ ระบุว่า ในระหว่างการประชุม คณะตัวแทนไต้หวันและผู้แทนระดับสูงหรือเจ้าหน้าที่รัฐมนตรีจากเขตเศรษฐกิจ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนหารือกันในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยี AI , ความมั่นคงทางไซเบอร์ , ความยืดหยุ่นทางดิจิทัลและนวัตกรรมดิจิทัล เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการวางรากฐานไปสู่การพัฒนาความร่วมมือในภายภาคหน้าต่อไป นอกจากนี้ รมว.หวงฯ ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วม “การประชุมด้านดิจิทัลและ AI ระดับโลก” ที่ร่วมจัดขึ้นโดยรัฐบาลเกาหลีใต้และธนาคารโลก เพื่ออภิปรายกับตัวแทนเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ในประเด็นเกี่ยวกับความท้าทายและทิศทางความร่วมมือในอนาคตของการพัฒนา AI และดิจิทัล
 
ในอนาคต ไต้หวันจะมุ่งพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกในระดับภูมิภาค ควบคู่ไปกับการผลักดัน AI , ความมั่นคงทางไซเบอร์ , การประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงสถิติ และเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ ตลอดจนนำเสนอให้ประชาคมโลกประจักษ์เห็นศักยภาพทางดิจิทัลของไต้หวัน และเจตนารมณ์ทางความร่วมมือระดับนานาชาติ