New Southbound Policy Portal

สภาบริหาร วันที่ 12 ส.ค. 68
 
นายหลินหมิงซิน รัฐมนตรีประจำสภาบริหารไต้หวัน ได้นำคณะตัวแทนเข้าร่วมการประชุมเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ (APEC Women and the Economy Forum, WEF) ที่จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2568 โดยยึดหลักนโยบาย “การดูแลด้วยการจัดโครงสร้างพื้นฐานเชิงสาธารณูปโภค” และ “การบริหารปกครองในรูปแบบดิจิทัล ที่ผสมผสานเข้ากับมุมมองทางเพศภาวะ” เพื่อนำเสนอให้เห็นนโยบายแห่งอนาคตที่บูรณาการระหว่างความเสมอภาคทางเพศและความยืดหยุ่นทางดิจิทัล โดยคณะตัวแทนที่รวมตัวขึ้นในครั้งนี้ ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิชาการ ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมและองค์การภาคเอกชน โดยคณะตัวแทนเหล่านี้ ต่างร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดจากการปฏิบัติจริง บนเวทีการประชุมหัวข้อพิเศษหลายรายการ ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างความชัดเจนด้านนโยบาย และบทบาทของไต้หวันที่มีต่อประเด็นเพศสถานะของ APEC  
 
เพื่อขานรับต่อหัวข้อ “การส่งเสริมการเข้าร่วมในระบบเศรษฐกิจของกลุ่มสตรี มุ่งพัฒนาการเติบโตที่ยั่งยืน” ในการประชุมระดับสูงสำหรับผู้กำหนดนโยบายด้านสตรีและเศรษฐกิจ (High Level Policy Dialogue, HLPD) ประจำปีนี้ รมว.หลินฯ กล่าวระหว่างการประชุม โดยระบุว่า เมื่อเผชิญหน้ากับแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุและวิกฤตเด็กเกิดน้อย ไต้หวันได้กำหนดให้กลไกการให้บริการสาธารณะ เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการยกระดับความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา ไต้หวันมุ่งผลักดันนโยบายสังคมผู้สูงวัย เวอร์ชัน 3.0 ด้วยการพัฒนากลไกการดูแลเชิงบูรณาการในพื้นที่ชุมชน ด้วยการผนวกรวมเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดบรรเทาภาระของสมาชิกในครอบครัว และเพื่อยกระดับศักยภาพการให้บริการในพื้นที่ และการเข้าถึงกลไกการบริการ เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มสตรียังคงสามารถประกอบอาชีพที่ตนถนัดได้อย่างเช่นเคย โดยไม่ต้องกังวลภาระการดูแลสมาชิกในครอบครัว
 
รมว.หลินฯ แถลงต่อประเด็นการพัฒนา AI ที่รุดหน้า และความเสี่ยงในการเกิดอคติทางเพศซ้ำ โดยระบุว่า ขณะนี้ ไต้หวันอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงตรรกะการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลักดันให้ประเด็นเพศสถานะเป็นกระแสหลัก (Gender Mainstreaming) และมุ่งสู่การบรรลุ “แผนแม่บทความเสมอภาคทางเพศ” ส่งเสริมให้มีการเพิ่มพูนมุมมองทางเพศภาวะเข้าสู่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา การวิจัยโครงสร้างร่างกายมนุษย์ และการออกแบบทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าผลสัมฤทธิ์ด้านนวัตกรรม สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของเพศสภาพที่แตกต่าง เพื่อป้องกันความผิดพลาดของระบบ นอกจากนี้ รมว.หลินฯ ยังเน้นย้ำว่า เมื่อเผชิญหน้ากับคุณลักษณะความรุนแรงทางเพศที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีแบบข้ามพรมแดน จึงขอชี้แนะให้เขตเศรษฐกิจ APEC ร่วมกันหารือกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาค และมาตรฐานการบริหารในรูปแบบดิจิทัล ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันและส่งเสริมความเสมอภาคและความมั่นคงให้กลุ่มสตรี ทั้งในสภาพแวดล้อมจริงและสถานการณ์จำลอง
 
สำนักงานส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ภายใต้สภาบริหาร ชี้แจงว่า คณะตัวแทนสมาชิกไต้หวันจำนวนมากได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นผู้บรรยายในการประชุมความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงนโยบายด้านเศรษฐกิจและสตรี ภายใต้กรอบเอเปค (Policy Partnership on Women and the Economy, PPWE) แสดงให้เห็นถึงนัยยะและความหลากหลายของไต้หวันในด้านความเสมอภาคทางเพศ อาทิ ศาสตราจารย์เฉินยุ่นหนง ประจำคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ได้แบ่งปันมุมมองทางเพศภาวะในประเด็น AI และระบบเศรษฐกิจของกลุ่มสตรี ส่วน ดร. เฉินหุ้ยผิง นายกรัฐมนตรีสมาคมพัฒนาพลังงานสีเขียวเพื่อการกุศลของไต้หวัน (Taiwan Green Energy for Charity Association, TGECA) ได้ร่วมแบ่งปันแผนริเริ่มด้านการบ่มเพาะกลุ่มสตรีเข้ามีส่วนร่วมในพลังงานสีเขียว นอกจากนี้ นางกูหุ้ยอิ๋ง เจ้าหน้าที่สนง.ส่งเสริมความเสมอทางเพศ ได้ขานรับต่อหัวข้อประจำปีนี้ ด้วยการชูเสนอโมเดลเศรษฐกิจการดูแลเชิงนวัตกรรม แนวคิดเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการผลักดันความเสมอภาคทางเพศในมิติต่างๆ ของไต้หวันอย่างกระตือรือร้น