New Southbound Policy Portal

ศูนย์ Taiwan Tech Arena (TTA) ภายใต้การกำกับดูแลของคกก.กิจการวิทยาศาสตร์ฯ ประสบความสำเร็จในการฝึกอบรมสตาร์ทอัพกว่าพันราย ดึงดูดเงินลงทุน รวมมูลค่า 40,000 ล้านเหรียญไต้หวัน และสามารถรุกขยายตลาดนานานาชาติใน 40 ประเทศ ตลอดจนได้รับคำสั่งซื้อจากนักธุรกิจทั่วโลกกว่า 250 ราย

คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่ 29 ส.ค. 68
 
เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ “ระบบนิเวศด้านนวัตกรรม” ภายใต้นโยบาย “โครงการความหวังของประเทศชาติ” รัฐบาลจึงได้กำหนดกลยุทธ์หลัก 3 ประการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ได้แก่ : (1) การอัดฉีดเงินลงทุนเพื่อให้เศรษฐกิจเกิดความเคลื่อนไหวที่มีความคึกคักจากเม็ดเงินที่มีการหมุนเวียนมากขึ้น (2) การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขยายเป้าหมายออกเป็นวงกว้าง และ (3) การยกระดับกลไกการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จ โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน (NSTC) จึงได้จัด “งานแถลงข่าวเปิดตัวผลสัมฤทธิ์ล่าสุดของระบบนิเวศด้านนวัตกรรม” เพื่อชี้แจงว่า หลายปีมานี้ ศูนย์ Taiwan Tech Arena (TTA) ของไต้หวัน มุ่งผลักดันภารกิจที่เกี่ยวข้องจนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่ครอบคลุม ทั้งการฝึกอบรมกลุ่มสตาร์ทอัพ รวมจำนวน 1,069 ราย , การดึงดูดเงินลงทุน รวมมูลค่า 40,000 ล้านเหรียญไต้หวัน และการนำกลุ่มสตาร์ทอัพ ก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติอย่าง งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับนานาชาติ (International Consumer Electronics Show, CES) และมหกรรมจัดแสดงผลงานนัวตกรรรมและเทคโนโลยี VivaTech เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงสถานการณ์ความคืบหน้าในภาพรวมด้านนวัตกรรม
 
นายซูเจิ้นกัง  รองประธาน NSTC กล่าวว่า TTA มุ่งมั่นจัดตั้งเวทีการแลกเปลี่ยนด้านการประกอบธุรกิจที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งอัดฉีดนวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมให้กลุ่มสตาร์ทอัพก้าวทันกระแสโลก ควบคู่ไปกับการนำพากลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ตลอดจนมุ่งกระชับความร่วมมือระหว่างกลุ่มสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการภาคธุรกิจ จึงอาจกล่าวได้ว่า TTA เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการเชื่อมโยงกลุ่มสตาร์ทอัพของไต้หวันสู่โลกนานาชาติ โดยในอนาคต พวกเราจะยังคงมุ่งขับเคลื่อนศักยภาพทางนวัตกรรมของไต้หวัน ให้ก้าวสู่เวทีโลกต่อไป
 
การกระตุ้นความร่วมมือระหว่างกลุ่มสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการภาคธุรกิจที่ดำเนินการโดย NSTC ในปีนี้ ประกอบด้วย 5 ทิศทางหลัก ดังนี้ :
1.การสร้างกลไกการจับคู่ระหว่างกลุ่มสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธรุกิจ : เริ่มจากการซักถามความต้องการของผู้ประกอบการ จากนั้น จึงจะทำการคัดเลือกกลุ่มสตาร์ทอัพที่เปี่ยมศักยภาพด้วยความแม่นยำ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจแบบตัวต่อตัว โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “อากาศยานไร้คนขับ” และ “ระบบอัจฉริยะ” ซึ่งประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือ ระหว่างสตาร์ทอัพและภาคอุตสาหกรรม กว่า 10 รายการ
 
2. การออกบททดสอบโดยผู้ประกอบการธุรกิจ เพื่อส่งมอบโอกาสให้สตาร์ทอัพเข้าช่วยเหลือแก้ปัญหา : เราจะมุ่งเน้นไปที่ต้นตอปัญหาที่กลุ่มธุรกิจในพื้นที่ทางภาคใต้ของไต้หวันต้องเผชิญหน้า ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านและยกระดับองค์กรธุรกิจ โดยจะมุ่งให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมอุปสงค์ และนำทีมสตาร์ทอัพเข้าร่วมระดมสมองในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ เพื่อเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยในปีนี้ได้กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือ รวม 9 รายการแล้ว
 
3. จับมือกับผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ในการจัดการฝึกอบรม : จับมือกับกลุ่มผู้ประกอบการในการจัดตั้งรางวัลนวัตกรรม AI ซึ่งนอกเหนือจากจะการส่งมอบเงินทุนแล้ว ยังจะบูรณาการรวมทรัพยากรการฝึกอบรม เพื่อช่วยส่งเสริมให้กลุ่มสตาร์ทอัพรุกขยายสู่ตลาดใหม่ และเกิดการประยุกต์ใช้ในมิติใหม่ๆ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนกว่า 1,439 ราย ซึ่งในท้ายสุด ได้คัดเลือกให้เหลือเพียง 8 กลุ่มเท่านั้นในปีนี้
 
4. ดึงดูดให้กลุ่มสตาร์ทอัพนานาชาติ เข้าจัดตั้งรากฐานในไต้หวัน : ด้วยจุดแข็งของไต้หวันในระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เราจึงจัดการแข่งขัน IC Taiwan Grand Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโลกที่เชื่อมโยงชุมชนสตาร์ทอัพนานาชาติ เข้าร่วมสำรวจโอกาสทางธุรกิจระดับโลกในไต้หวัน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาความเกี่ยวโยงทางภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนเร่งกระตุ้นให้การประยุกต์ใช้นวัตกรรมระดับสากล เข้าจัดตั้งรากฐานในไต้หวัน จวบจนปัจจุบัน มีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันที่จัดขึ้นรวม 3 รอบแล้วทั้งสิ้น 376 ราย โดยมีเพียง 18 รายที่ได้รับการคัดเลือก
 
5. ความร่วมมือระหว่างสมาคมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ : เสริมสร้างความร่วมมือกับ SEMI TAIWAN , สมาคมนวัตกรรมและผู้ประกอบการแห่งชาติ (National Innovation and Entrepreneurship Association, NiEA) สมาคมไต้หวันผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน(Taiwan Venture Capital Association, TPCA) และ AWS รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ ในการส่งมอบโอกาสให้กลุ่มสตาร์ทอัพของ TTA เข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้า และกิจกรรมจับคู่ระหว่างกลุ่มสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจ ในภายภาคหน้าต่อไป