New Southbound Policy Portal
กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 22 ก.ย. 68
เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านการยื่นขออนุมัติใบรับรองโมเดล AI ทางการแพทย์ ในระหว่างการประยุกต์ใช้จริง เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา สำนักสารนิเทศ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare, MOHW) ของไต้หวัน จึงได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเปิดฉากความร่วมมือด้านการตรวจสอบแบบข้ามพรมแดน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งกระบวนการพาณิชย์ของอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์รูปแบบอัจฉริยะ ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นมา สำนักสารนิเทศ MOHW จึงได้ให้การสนับสนุนจัดตั้ง “ศูนย์ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานทางคลีนิกด้วย AI” (clinical AI certification and validation center) รวมจำนวน 4 แห่ง ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานข้อมูลทางการแพทย์แบบข้ามหน่วยงาน ที่สอดคล้องตามมาตรฐาน FHIR ในระดับสากล ควบคู่ไปกับการจัดตั้งแพลตฟอร์มการฝึกอบรม AI ที่รองรับการเรียนรู้ในรูปแบบ Federated โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ สามารถส่งเสริมให้ผู้พัฒนาคิดค้น AI ทางการแพทย์ และกลุ่มวิจัยทางวิชาการ สามารถประยุกต์ใช้ข้อมูลสถิติในขอบเขตที่กว้างขึ้น และสอดรับต่อลักษณะเฉพาะของประชากรไต้หวัน เพื่อใช้ในการตรวจสอบ อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการประยุกต์ใช้ AI อนึ่ง การออกแบบระบบข้างต้น ถือเป็นการสร้างทางด่วนที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อัจฉริยะของไต้หวันอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการยื่นขออนุมัติใบรับรอง จากการนำอุปกรณ์การแพทย์อัจฉริยะ เข้าตรวจสอบในสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ขณะเดียวกัน ก็เป็นการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ข้อมูลเวชระเบียนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของสถานพยาบาลหลักๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ข้อมูลสถิติทางการแพทย์จะสามารถสร้างคุณค่าที่เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้กรอบจริยธรรม
ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - ไทย ในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบโมเดล AI ทางการแพทย์อัจฉริยะ โดยมีสาระสำคัญหลักๆ ดังนี้ :
1. การริเริ่มความร่วมมือด้านการตรวจสอบโมเดล AI ทางการแพทย์ในสถานพยาบาลของไต้หวัน : มหาวิทยาลัยมหิดลจะช่วยผลักดันให้โมเดล AI ทางการแพทย์ เข้ารับการตรวจสอบในสถานพยาบาลของไต้หวัน ที่มีคุณสมบัติในการตรวจสอบแบบข้ามโดเมน และมีกลไกการเรียนรู้รูปแบบ Federated
2. การจัดตั้งพื้นที่นำร่องด้านการตรวจสอบในไทย : โรงพยาบาลไต้หวันจะประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยมหิดล เข้าจัดตั้งพื้นที่นำร่องด้านการตรวจสอบโมเดล AI ในไทย
3. การส่งเสริมความร่วมมือด้านการตรวจสอบแบบข้ามแวดวงระหว่างประเทศ : โมเดล AI ที่ได้รับการคิดค้นวิจัยโดยผู้ประกอบการไต้หวันหรือไทย สามารถนำไปตรวจสอบโดยมีค่าธรรมเนียมในสถานพยาบาลของทั้งสองประเทศได้ และสามารถพูดคุยตกลงเงื่อนไขกันได้ตามความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย
พิธีลงนามในครั้งนี้ มีนายหลี่เจี้ยนจาง ผู้อำนวยการสำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุขของไต้หวัน และศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นตัวแทนร่วมลงนาม โดยมีรองศาสตราจารย์ นายแพทย์เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศ รองศาสตราจารย์ ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ส่วนตัวแทนเจ้าหน้าที่ไต้หวัน ที่เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ ประกอบด้วย Prof. Pai-Chi Li ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology, Thailand) และ Ms. Tsz-Yin Chang รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีทางอุตสาหกรรมไต้หวัน (ITRI) รวมถึงตัวแทนสำคัญของ “ศูนย์ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานทางคลีนิกด้วย AI”
เนื่องจากประเทศไทยมุ่งผลักดันแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI โดยกลยุทธ์ข้างต้นครอบคลุมการประยุกต์ใช้ AI ในหน่วยงานราชการและอุตสาหกรรมที่สำคัญ การแลกเปลี่ยนกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไต้หวัน – ไทยในครั้งนี้ จัดขึ้นในรูปแบบ “การประชุมตรวจสอบโมเดล AI ทางการแพทย์ระดับนานาชาติ” โดยมีผอ.หลี่ฯ ชี้แจงแนวทางการผลักดันสถาบัน AI รวม 3 แห่งหลักในไต้หวัน รวมถึงการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลด้าน AI ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการประยุกต์ใช้ AI ในพื้นที่ การยื่นขออนุมัติใบรับรอง และค่าธรรมเนียม เป็นต้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จาก “ศูนย์ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานทางคลีนิกด้วย AI” ทั้ง 4 แห่ง ก็ได้เข้าร่วมแบ่งปันพันธกิจและประสบการณ์การบริหารงานในศูนย์
ตัวแทนฝ่ายไทยได้ติดต่อเชิญให้ผอ.หลี่ฯ เข้าพบปะกับ นายแพทย์อารยะ ไข่มุกด์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุขของไทย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่ขับเคลื่อนโอกาสความร่วมมือด้านการแพทย์ AI ระหว่างไต้หวัน - ไทย นอกจากนี้ คณะตัวแทนยังได้เข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลศิริราช ในเครือมหาวิทยาลัยมหิดล โดยรพ.ศิริราชมุ่งมั่นในการประสานความร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพ ในการคิดค้นวิจัยโมเดล AI ทางการแพทย์ AI จึงเกิดความสนใจต่อการตรวจสอบเพื่อขอใบรับรองในประเด็นดังกล่าว
ความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – ไทย จะมุ่งเน้นไปที่การประยุกต์ใช้ศูนย์เรียนรู้รูปแบบ Federated ที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักสารนิเทศ MOHW เพื่อเป็นฐานสำคัญในการประสานความร่วมมือด้านการตรวจสอบแบบข้ามพรมแดน ในอนาคต แพลตฟอร์มการเรียนรู้ รูปแบบ Federated จะเชื่อมโยง “ศูนย์ตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานทางคลีนิกด้วย AI” เพื่ออนุมัติให้หน่วยงานต่างๆ สามารถใช้โมเดลการฝึกอบรมร่วมกันได้ โดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลกันโดยตรง ซึ่งจะช่วยยกระดับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ตลอดจนเสริมสร้างความครอบคลุมและเสถียรภาพของโมเดลได้อย่างมีประสิทธิภาพประกอบกับข้อมูลจะไม่ถูกถ่ายโอนระหว่างหน่วยงาน จึงสามารถลดความเสี่ยงของการรั่วไหลของข้อมูล ในระหว่างการส่งผ่านข้อมูลได้ โดยหน่วยงานสามารถอาศัยทรัพยากรการประมวลผลของตนในการฝึกอบรม เพื่อลดความจำเป็นในการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลขั้นสูงแบบรวมศูนย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อความร่วมมือข้ามพรมแดน
กลไกการตรวจสอบรูปแบบนวัตกรรมที่ประสานความร่วมมือแบบข้ามหน่วยงาน นอกจากจะเป็นกรณีต้นแบบของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการทลายกรอบจำกัดของโลกนานาชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักธุรกิจและทีมงานวิจัยด้านการแพทย์อัจฉริยะ ทั้งในและต่างประเทศ จากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน จะสามารถช่วยส่งเสริมให้ไต้หวัน พัฒนาสู่ฐานนวัตกรรมการแพทย์อัจฉริยะได้ในอนาคต