New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 6 พ.ย. 68
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทน All Japan Taiwanese Union（AJTU）” โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อ AJTU ที่ผนึกรวมกำลังแวดวงประชาชนชาวไต้หวันที่พำนักในญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมมิตรภาพอันดี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น พร้อมกล่าวว่า ไต้หวัน - ญี่ปุ่น เป็นหุ้นส่วนที่เอื้อประโยชน์แก่กันเสมอมา ซึ่งนอกจากจะพัฒนาความร่วมมือด้านการป้องกันภัยพิบัติแล้ว ยังได้ส่งเสริมการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างสมดุล อาทิ เศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี ความมั่นคง พลังงานสีเขียวและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนที่มีความยืดหยุ่น
ปธน.ไล่ฯ กล่าวให้การต้อนรับมิตรสหาย AJTU ที่เดินทางมารวมตัวแลกเปลี่ยนกันในทำเนียบปธน.ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AJTU ได้ส่งมอบความห่วงใยต่อชาวไต้หวันที่พำนักในญี่ปุ่น และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่เป็นมิตร ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณความแข็งแกร่งและความอบอุ่นของประชาชนชาวไต้หวัน ซึ่งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ที่ได้มีการจัดตั้ง AJTU เป็นต้นมา ก็ได้ผนึกรวมกำลังของแวดวงชาวไต้หวันที่พำนักในญี่ปุ่น ในการส่งเสริมให้มิตรสหายชาวญี่ปุ่นเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อไต้หวันเพิ่มมากขึ้น ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรม การศึกษาและการกุศล จึงจะเห็นได้ว่า AJTU มีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ปธน.ไล่ฯ จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความนับถือและขอบคุณด้วยใจจริง ในฐานะตัวแทนของภาคประชาชนชาวไต้หวัน
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ไต้หวัน - ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่คอยเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และก้าวผ่านวิกฤตต่างๆ มาด้วยกัน ทั้งภัยแผ่นดินไหวและสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งล่าสุด จากสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นพัดถล่มเข้าสู่เมืองฮัวเหลียน ส่งผลให้ทะเลสาบที่กั้นไว้ล้นทะลักจากสันเขื่อนหม่าไท่อัน เกิดเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ หลังทราบข่าว แวดวงต่างๆ ในญี่ปุ่นต่างก็แสดงความห่วงกังวล โดยรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ส่งมอบ “อุปกรณ์ตรวจวัดระดับความสูงของน้ำในเขื่อนให้ไต้หวัน” และมีอาสาสมัครชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ลงพื้นที่เข้าให้ความช่วยเหลือภารกิจการฟื้นฟู แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่มีต่อกันอย่างจริงใจ สร้างความประทับใจให้แก่ภาคประชาชนไต้หวันเป็นอย่างมาก โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี ควบคู่ไปพร้อมกับการยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันภัยพิบัติ อาทิ กรณีตัวอย่างการจัดตั้งโรงงานผลิตแผ่นชิปเวเฟอร์ในเมืองคูมาโมโตะของบริษัท TSMC ไม่เพียงแต่จะเป็นการลงทุนของภาคธุรกิจ และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางภาคอุตสาหกรรมระหว่างกันแล้ว ยังเป็นการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานด้านเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ให้ทวีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้ว Ms. Takaichi Sanae เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน โดยปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองรัฐบาลจับมือกันพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยีและความมั่นคง ตลอดจนบูรณาการประสบการณ์และข้อได้เปรียบ ด้านพลังงานสีเขียวและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ในการจัดตั้งความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วนที่มีความยืดหยุ่นในเชิงลึกอย่างยั่งยืน
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า AJTU เฝ้าจับตาต่อประเด็นการพัฒนาในไต้หวันอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลไต้หวันอยู่ระหว่างการผลักดันพัฒนา “โครงสร้างพื้นฐานรูปแบบใหม่ด้าน AI” ด้วยการเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีอย่างเทคโนโลยีควอนตัม ซิลิคอนโฟโตนิกส์และหุ่นยนต์โรบอท เป็นต้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ไต้หวันก้าวสู่ยุคสมัยอัจฉริยะเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการแพทย์ชีวภาพยังได้บรรจุ “โครงการความหวังของประเทศชาติ” เข้าสู่ในระบบ โดยหวังที่จะบูรณาการศักยภาพการแพทย์และข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีของไต้หวัน เพื่อพัฒนาการแพทย์อัจฉริยะ และการแพทย์แม่นยำ ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
ปธน.ไล่ฯ ชี้ว่า AJTU มุ่งดำเนินภารกิจต่างๆ ในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ซึ่งนอกจากจะมีความเข้าใจต่อกระแสหลักทางสังคมในพื้นที่แล้ว ยังเป็นช่องทางสำคัญที่ส่งผ่านความจริงใจและศักยภาพของไต้หวันไปสู่มิตรสหายชาวญี่ปุ่น