New Southbound Policy Portal

เส้นทางรถไฟสายภูเขาของไต้หวันเผยโฉมในงาน World Travel Market ที่จัดขึ้นในนครลอนดอน โดยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก เดินทางมาร่วมดื่มด่ำกับเสน่ห์ไต้หวันได้ในคูหา “มาร่วมดื่มฉลองกันในไต้หวัน”

กระทรวงคมนาคม วันที่ 10 พ.ย. 68

งาน World Travel Market (WTM) ซึ่งเป็นมหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบ B2B ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีกำหนดการเปิดฉากขึ้น ณ ศูนย์การประชุม ExCel London ในระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ กรมการท่องเที่ยว ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมไต้หวัน จึงได้จัดรวบรวมคณะตัวแทนด้านการท่องเที่ยวไต้หวัน เดินทางเข้าร่วม เพื่อจัดการประชาสัมพันธ์ทัศนียภาพและเมนูอาหารของไต้หวัน ในธีม “มาร่วมดื่มฉลองกันในไต้หวัน” และ “เส้นทางรถไฟสายภูเขาอาลีซาน” เพื่อตอบสนองต่อความชื่นชอบในการสำรวจวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ซึ่งก่อนเข้าจัดงาน WTM คณะตัวแทนได้เดินทางเยือนเมืองสต็อกโฮล์มของสวีเดน เพื่อเข้าร่วมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนกับแวดวงการท่องเที่ยวในยุโรปเหนือ เพื่อรุกขยายตลาดเกิดใหม่ที่เปี่ยมศักยภาพ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ในไต้หวัน
 
จากรายงานสถิติล่าสุดที่จัดทำโดยกรมการท่องเที่ยว ยอดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 46,174 คนครั้ง ซึ่งสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 กว่าร้อยละ 16.6% อังกฤษถือเป็นแหล่งที่มาอันดับ 1 ในทวีปยุโรปที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน ส่วนสวีเดนเป็นแหล่งที่มาอันดับ 2 ในอเมริกาเหนือที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อขานรับกระแสการท่องเที่ยวสีเขียวและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กรมการท่องเที่ยวไต้หวันจึงมุ่งผลักดันการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนด้วยความกระตือรือร้น ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมระดับนานาชาติ อาทิ WTM และการจัดการประชาสัมพันธ์ในสวีเดน เพื่อส่งเสริมให้ประชาคมโลก เดินทางมาเยือนสัมผัสกับเสน่ห์ของเกาะไต้หวัน
 
คูหาไต้หวันในปีนี้สืบสานภาพลักษณ์ “คูหาชาแบบย้อนยุค” ที่ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้เข้าชม ผสมผสานเข้ากับองค์ประกอบเส้นทางรถไฟสายภูเขาอาลีซานที่มีเอกลักษณ์พิเศษ สรรสร้างให้เกิดเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่มีจุดเริ่มต้นจากเส้นทางรถไฟ ที่แล่นผ่านป่าเขาอุดมสมบูรณ์ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของใบชา นอกจากนี้บริเวณช่วงบนของคูหา ได้มีการจัดตั้งจอ LED เพื่อจัดแสดงภาพลักษณ์ของแผนที่โบราณไต้หวัน และเปิดฉายภาพวิวทิวทัศน์และประเพณีวัฒนธรรมของไต้หวัน ผ่านจอยักษ์ LED ในรูปแบบแรนดอม
 
ในวันที่ 5 พ.ย. คูหาไต้หวันได้จัดการแลกเปลี่ยนอาหารเช้าสำหรับผู้ประกอบการ โดยได้ติดต่อเชิญผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชน จำนวน 30 ราย เข้าร่วมลิ้มลองเมนูอาหารเช้าแบบโบราณของไต้หวัน อาทิข้าวปั้น กว้าเปา (Gua Bao) และน้ำเต้าหู้ พร้อมเพลิดเพลินไปกับการบรรเลงบทเพลงพื้นบ้าน “Clinking Coins” ของวงดนตรี Judy's Harmonica Ensemble ซึ่งเป็นวงดนตรีหีบเพลงฮาโมนิก้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับสากล พร้อมกันนี้ ยังได้จัดชี้แจงทรัพยากรการท่องเที่ยวล่าสุดของไต้หวัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยุโรปมุ่งแสวงหาสินค้าท่องเที่ยวในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
 
ภายในคูหา ยังได้จัดเตรียมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์เชิงวัฒนธรรมและการแสดงดนตรีสดขึ้นทุกวัน ทั้งเกมการเสี่ยงโชคแบบโบราณ การประดิษฐ์สร้างสรรค์ที่รองแก้วลายฉลุที่ทำจากไม้ และที่คั่นหนังสือในรูปแบบการถักทอสไตล์ชนพื้นเมือง ขณะเดียวกัน ก็จัดให้มีอาจารย์ชงชาเข้าร่วมจัดบรรยายวัฒนธรรมชาและการดื่มชา อีกทั้งยังมีการแจกเครื่องดื่ม เบียร์และโซดารสแอปเปิ้ล เพื่อสรรสร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น และเป็นการนำเสนอให้เห็นศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรมของไต้หวัน ตลอดจนสร้างเซอร์ไพรส์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้แก่ผู้เข้าชมงาน
 
นอกจากนี้ คูหาไต้หวันยังได้จับมือกับบริษัทสายการบิน จับมือกันจัดไฮไลท์กิจกรรม ซึ่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. บริษัท EVA AIR ได้ติดต่อเชิญให้นักกีฬาทีมฟุตบอลเวสต์แฮม (West Ham) เข้าร่วมให้การสนับสนุน ผ่านการแจกลายเซนต์และเข้าร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์ถาม – ตอบภายในคูหา ส่งผลให้มีผู้เข้าชมอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ในวันที่ 6 พ.ย. บริษัท China Airlines ยังได้จัดคูหาเกมการสร้างปฏิสัมพันธ์ เพื่อสร้างบรรยากาศความครึกครื้น อีกทั้งยังได้จัดการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านรถแทกซี่ ตลอดจนจัดให้หมี Oh Bear ทูตการท่องเที่ยวไต้หวัน เข้าร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมอย่างเป็นกันเอง
 
นอกเหนือจากงาน WTM แล้ว เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะตัวแทนไต้หวันยังได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนเมืองสต็อกโฮล์มของสวีเดน เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไต้หวัน และเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อ จำนวนกว่า 40 รายให้ความสนใจเข้าร่วม พร้อมแบ่งปันสินค้าการท่องเที่ยวล่าสุดของไต้หวัน รวมถึงข้อมูลเที่ยวบินและสิทธิประโยชน์ต่างๆ
 
จากการเข้าร่วมกิจกรรมระดับนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการนานาชาติ ได้มีโอกาสทำความรู้จักและสัมผัสกับเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไต้หวันในเชิงลึกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้เกิดโอกาสธุรกิจ ระหว่างไต้หวันและผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยในอนาคต ไต้หวันจะรุกขยายกลุ่มลูกค้าในตลาดทวีปยุโรปและยุโรปเหนืออย่างขมักเขม้นต่อไป