New Southbound Policy Portal

ไต้หวัน – โปแลนด์ ร่วมจัดการประชุมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้า ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ก้าวไปสู่อีกขั้นที่สูงขึ้น

กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 15 พ.ย. 68

นางเจียงเหวินรั่ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน มีกำหนดการเดินทางเยือนโปแลนด์ ในช่วงระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วม “การประชุมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ครั้งที่ 13” ซึ่งนอกจากจะเข้าร่วม “นิทรรศการ Rebuild Ukraine Exhibition” แล้ว ยังได้เข้าร่วมกิจกรรม “การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ครั้งที่ 21” เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี และกระตุ้นโอกาสธุรกิจทางความร่วมมือ
 
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. รมช.เจียงฯ ได้ทำหน้าที่เป็นประธาน “การประชุมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ครั้งที่ 13” ร่วมกับ Mr. Michał Jaros รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของโปแลนด์ ที่จัดขึ้น ณ เมืองวรอตสวัฟ ประเทศโปแลนด์ เพื่อร่วมอภิปรายหารือกันในประเด็นแนวทางการพัฒนาความร่วมมือในด้าน ICT , เซมิคอนดักเตอร์ , นวัตกรรมธุรกิจรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนเขตเศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรม” และ “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นวัตกรรมและธุรกิจสตาร์ทอัพ”
 
รมช.เจียงฯ กล่าวระหว่างการประชุมว่า เมื่อปีที่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลโปแลนด์ได้รวบรวมคณะตัวแทนกลุ่มใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ในการสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกแบบทวิภาคี ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งไต้หวัน – โปแลนด์ ได้พัฒนาความสัมพันธ์รูปแบบหุ้นส่วน ภายใต้พื้นฐานค่านิยมด้านประชาธิปไตยและจิตวิญญาณด้านนวัตกรรม ซึ่งจะก้าวสู่การเป็นต้นแบบทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวันและกลุ่มประเทศทวีปยุโรป ในอนาคตต่อไป
 
รมช. Jaros กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ นับวันยิ่งทวีความแนบแน่นเพิ่มมากขึ้น ไต้หวันไม่เพียงแต่จะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าที่สำคัญของโปแลนด์แล้ว ยังเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดตั้งห่วงโซ่อุปทานที่มีความมั่นคงและความยืดหยุ่นร่วมกันกับไต้หวัน และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกบนพื้นฐานที่มีอยู่เดิม ตลอดจนให้คำมั่นว่า รัฐบาลโปแลนด์จะปรับลดมาตรการการยื่นคำขอใบอนุญาตทำงาน และจะจัดตั้งศูนย์บริการรูปแบบเบ็ดเสร็จให้แก่ผู้ประกอบการไต้หวัน
 
ในระหว่างนี้ รมช.เจียงฯ และรมช. Jaros ยังได้เข้าร่วม “การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ครั้งที่ 21” โดยรมช.เจียงฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า การประชุมในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการไต้หวัน – โปแลนด์ นับร้อยคน ให้ความสนใจเข้าร่วม ซึ่งมีขอบเขตที่ครอบคลุมในหลากหลายมิติ อาทิ พลังงานสีเขียว , ระบบกักเก็บพลังงาน , ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น เมื่อเผชิญหน้ากับการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่รุดหน้า และสถานการณ์ระหว่างประเทศที่พลิกผัน รัฐบาลไต้หวันจะตั้งมั่นอยู่บนห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ ในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับหุ้นส่วนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง
 
นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐการโปแลนด์ยังได้อาศัยโอกาสนี้ จัดกิจกรรม “Gateway to Europe” ขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไต้หวันเกิดความเข้าใจต่อนิเวศอุตสาหกรรมของโปแลนด์ และกำหนดให้โปแลนด์เป็นฐานการตลาดเริ่มแรกที่จะพัฒนาไปสู่กลุ่มประเทศในทวีปยุโรป นอกจากนี้ รมช.เจียงฯ ยังได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านระบบนิเวศดิจิทัล ระหว่างไต้หวัน – โปแลนด์ ระหว่างสมาคมพลังงานสีเขียวไต้หวัน (Taiwan Green Energy Association) , สำนักงานส่งเสริมการลงทุนและการค้าโปแลนด์ (Polish Investment and Trade Agency; PAIH) และสำนักงานส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมโปแลนด์ (Polish Agency for Enterprise Development,PARP)
 
ในโอกาสนี้ คณะตัวแทนยังได้เข้าเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมในเมืองวรอตสวัฟ เพื่อทำความเข้าใจต่อสภาพแวดล้อมทางการลงทุนในพื้นที่ และรูปแบบการบริหารงานในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักอ้างอิงให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะวางรากฐานธุรกิจในโปแลนด์