New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 19 พ.ย. 68
เมื่อช่วงที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินได้ตอบรับให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Vaidotas Beniušis บรรณาธิการบริหาร “15min” สื่อออนไลน์ของลิทัวเนีย โดยสื่อข้างต้นนี้เป็นสื่อรายงานข่าวรูปแบบออนไลน์ที่มีความรวดเร็วและยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลาง ซึ่งนอกจากจะเผยแพร่ข่าวสารผ่านตัวอักษรแล้ว ยังสามารถดึงดูดผู้ฟังจำนวนมาก ผ่านการรายงานข่าวสารในรูปแบบวิดีทัศน์และ Podcast ซึ่งได้รับความเชื่อถือเป็นวงกว้างจากภาคประชาชน ขอบเขตเนื้อหาของรายงานข่าวในครั้งนี้ ครอบคลุมทั้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ , ความมั่นคงและการเตรียมพร้อมทางกลาโหมของไต้หวัน , ความสัมพันธ์ระหว่างจีน - รัสเซียและสงครามรัสเซีย - ยูเครน , ความร่วมมือแบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาในไต้หวัน
เริ่มต้น ผู้สื่อข่าวได้ซักถามรองปธน.เซียวฯ ในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่พลิกผันเช่นนี้ ชาวลิทัวเนียต่างกังวลต่อภัยคุกคามที่เกิดจากรัสเซีย ส่วนไต้หวันก็ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากจีน ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ในความเห็นของรองปธน.เซียวฯ คิดว่า ภัยคุกคามเหล่านี้มีจุดเชื่อมโยงกันหรือไม่ กรุงปักกิ่ง – กรุงมอสโก มีแนวโน้มที่จับมือกันหรือไม่ ?
รองปธน.เซียวฯ ตอบว่า ปัจจุบันถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด ประกอบกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่นับวันยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้น ก่อนวาระการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย รัสเซียและจีนได้ร่วมกันประกาศ “ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่ไม่มีกรอบเพดานจำกัด” ในตอนนั้น พวกเราต่างก็เล็งเห็นแล้วว่า กลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม กำลังจับมือกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จีนและรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเกาหลีเหนือด้วย พร้อมกันนี้ รองปธน.เซียวฯ ยังระบุว่า ลิทัวเนีย – ไต้หวันเป็นประเทศที่ยึดมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประเทศลัทธิอำนาจนิยมในแง่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ พวกเราจึงมีชะตากรรมที่คล้ายคลึงกันในการเผชิญหน้าและรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าไต้หวัน - ลิทัวเนียจะห่างไกลกันในแง่ของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่พวกเราล้วนแต่เผชิญหน้ากับความท้าทายร่วมกัน
เมื่อถูกถามถึงความร่วมมือทางทหารในอนาคต ระหว่างรัสเซีย – จีน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศชาติตะวันตกในการตอบสนองรับมือ รองปธน.เซียวฯ หยิบยกคำกล่าวของ H.E. Volodymyr Zelenskyy ประธานาธิบดียูเครน ที่เคยชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้ว่า จีนไม่หวังที่จะเห็นสงครามรัสเซีย - ยูเครน ยุติลง ซึ่งพวกเราต่างตระหนักเห็นแล้วว่า จีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญของรัสเซีย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่ที่ป้อนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม อันเป็นการยกระดับและยืดขยายศักยภาพทางกลาโหมของรัสเซีย อีกทั้งพวกเรายังมองเห็นกลยุทธ์ที่มีร่วมกันของกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม ที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวพันกันทางความร่วมมือทางทหาร แต่ยังหมายรวมถึงสงครามจิตวิทยา , การแทรกซึมของอิทธิพลที่เกิดจากวิธีการลูกผสม , สงครามข้อมูลข่าวสาร และการแทรกแซงการทำงานตามระบอบประชาธิปไตย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถพบเห็นข่าวปลอมและการแพร่สะพัดของข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงบนสื่อโซเชียล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการจับมือกันระหว่างพันธมิตรประชาธิปไตยโลก ในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย
สื่อยังได้ระบุถึง วาทกรรมทางการเมืองที่แตกต่างกันภายในไต้หวัน เนื่องจากระยะที่ผ่านมา ประธานพรรคก๊กมินตั๋งในไต้หวัน เพิ่งประกาศแจ้งต่อสาธารณชนว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียไม่ใช่เผด็จการ และไม่คิดว่า ปูตินควรต้องรับผิดชอบต่อการบุกรุกรานยูเครน หากอำนาจทางการเมืองของไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลไต้หวันจะมีท่าทีและจุดยืนที่เป็นมิตรต่อรัสเซียเพิ่มมากขึ้น ?
รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า พวกเรามีความคิดเห็นขัดแย้งกันในประเด็นดังกล่าวจริง เนื่องจากพรรครัฐบาลไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำแถลงของผู้นำฝ่ายค้านเกี่ยวกับรัสเซีย โดยรองปธน.เซียวฯ เชื่อว่า ภาคประชาชนชาวไต้หวันส่วนมากมีความเชื่อมั่นต่อระบอบประชาธิปไตย และยืนหยัดในการธำรงรักษาเสรีภาพและค่านิยมที่พวกเราต่อสู้ร่วมกันมาอย่างยากลำบาก ในความเป็นจริงแล้ว ไต้หวัน - ลิทัวเนีย ต่างก็เป็นประเทศประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เนื่องจากพวกเราจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี พ.ศ. 2533 หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการเมืองให้แก่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าในปี 2543
รองปธน.เซียวฯ ระบุว่า ในฐานะประเทศประชาธิปไตยรุ่นใหม่ พวกเราจึงประสบกับความท้าทายไม่รู้จบ โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ภายนอก ที่เกิดจากการเผยแพร่ข่าวปลอมเป็นวงกว้างของจีน อย่างไรก็ตาม พวกเราประชาชนชาวไต้หวันต่างก็ยึดมั่นในเสรีภาพ และรู้สึกเห็นใจต่อชาวยูเครนที่ต้องประสบกับภัยสงคราม ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชนในไต้หวัน จึงได้ส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ยูเครนอย่างกระตือรือร้น และประสานความร่วมมือกับลิทัวเนีย เช็กและโปแลนด์ ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้ลี้ภัยและจัดตั้งสถานหลบภัยให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
ต่อประเด็นที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งอนุมัติการจำหน่ายอาวุธยุทโปกรณ์ล็อตแรก ในวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 นั้น รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประเมินความต้องการด้านความมั่นคงของไต้หวัน ตามคำมั่นที่ระบุไว้ใน “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” และส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงที่จำเป็น เพื่อช่วยยกระดับแสนยานุภาพการปกป้องประเทศให้แก่ไต้หวัน เพื่อไว้ใช้ในการป้องกันความขัดแย้งและรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ
เมื่อระบุถึงความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย รองปธน.เซียวฯ กล่าวว่า เราทั้งสองฝ่ายต่างผูกสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือกันเมื่อไม่นานมานี้ รองปธน.เซียวฯ เชื่อว่า ข้อได้เปรียบของทั้งสองฝ่ายจะสามารถเอื้อประโยชน์แก่กัน ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการไต้หวันบางส่วน ได้เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบหุ้นส่วนกับลิทัวเนีย ทั้งในด้านการเกษตรสมัยใหม่และการแพทย์ชีวภาพ
รองปธน.เซียวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในอุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับและอุตสาหกรรมกลาโหม ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญอันดับต้นๆ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาความยืดหยุ่นด้านกลาโหมอย่างกระตือรือร้น และลดการพึ่งพาอาศัยชิ้นส่วนอะไหล่จากเขตพื้นที่ที่ไม่น่าไว้วางใจ กลุ่มพันธมิตรด้านประชาธิปไตยจำเป็นต้องมีห่วงโซ่อุปทานที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี , เลนส์ถ่ายภาพ , หัวขาตั้งกล้อง หรือจะครอบคลุมทั้งในส่วนของอะไหล่อื่นๆ ที่ประยุกต์ใช้ในอากาศยานไร้คนขับ , หุ่นยนต์และระบบที่ไม่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์ โดยรองปธน.เซียวฯ หวังที่จะประสานความร่วมมือในทิศทางเหล่านี้กับลิทัวเนีย ซึ่งขณะนี้ มีหลายบริษัทที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาในทิศทางข้างต้นอย่างเป็นรูปธรรม