New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 12 ธ.ค. 68
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันจัด “การประชุมกิจการท่าเรืออัจฉริยะ ระหว่างไต้หวัน -ฟิลปปินส์ ประจำปี 2568” ขึ้น เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้ติดต่อเชิญตัวแทนหน่วยงานบริหารอ่าวซูบิกแห่งฟิลิปปินส์ (Subic Bay Metropolitan Authority, SBMA) , กรมการท่าฟิลิปปินส์ (Philippine Ports Authority, PPA) และเจ้าหน้าที่ราชการจังหวัด Ilocos Norte ประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงตัวแทนสมาคมสื่อและการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ จำนวน 30 คน เดินทางเยือนไต้หวัน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเชิงรุกกับตัวแทนภาครัฐของไต้หวัน รวมถึงเจ้าหน้าที่การท่าเรือ ตัวแทนการท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่งทางทะเล
การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ อาทิ เมืองอัจฉริยะ , การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน , เทคโนโลยีกิจการทางทะเล และท่าเรืออัจฉริยะ เป็นต้น โดยหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองแห่งท้องทะเลและกิจการท่าเรือรูปแบบอัจฉริยะ ระหว่างไต้หวัน – ฟิลิปปินส์ ผ่านการแบ่งปันประสบการณ์และการเสวนาทางนโยบายแบบทวิภาคี ควบคู่ไปกับการผลักดัน “ระเบียงเศรษฐกิจไต้หวัน - ฟิลิปปินส์” (Taiwan-Philippines Economic Corridor) เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
งานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการต้อนรับที่จัดขึ้นโดยนายเฉินหมิงฉี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ได้รับความสนใจจากตัวแทนเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทั้งรองผู้ว่าการนครเกาสง , เลขาธิการกรมการท่า ภายใต้กระทรวงคมนาคม , บริษัทการท่าไต้หวัน , ตัวแทนบริษัท Evergreen Marine Corp. , Yang Ming Marine Transport Corp. , Wan Hai Lines, Ltd. เป็นต้น โดยรมช.เฉินฯ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ถือเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่สำคัญของไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายต่างแบกรับความรับผิดชอบร่วมกันในด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและสันติภาพในระดับภูมิภาค พร้อมกันนี้ รมช.เฉินฯ ยังได้ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ – ญี่ปุ่น - ฟิลิปปินส์ ได้ร่วมกันประกาศ “ระเบียงเศรษฐกิจลูซอน” (Luzon Economic Corridor, LEC) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเชิงสาธารณูปโภคที่สำคัญในฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกัน ไต้หวันก็เดินหน้าผลักดัน “ระเบียงเศรษฐกิจไต้หวัน - ฟิลิปปินส์” ภายใต้แนวคิด “การทูตเชิงบูรณาการ” อย่างกระตือรือร้น โดยหวังที่จะจับมือกันเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง ท่าเรือเกาสง – ท่าเรือซูบิก เปี่ยมด้วยศักยภาพความร่วมมือขั้นสูงในการพัฒนารูปแบบอัจฉริยะ โดยในอนาคต ทั้งสองฝ่ายสามารถรุกขยายทิศทางความร่วมมือในกิจการท่าเรืออัจฉริยะและเทคโนโลยี
การประชุมที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเจ้าหน้าที่ภาครัฐและตัวแทนภาคอุตสาหกรรม ระหว่างไต้หวัน – ฟิลิปปินส์ จำนวนนับร้อยคนเข้าร่วม นางเหลียนอวี้ผิง อธิบดีกรมกิจการความร่วมมือระหว่างประเทศและฝ่ายเศรษฐกิจ ภายใต้การกำกับของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวขณะปราศรัยว่า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กต.ไต้หวันได้จัดรวบรวมให้คณะตัวแทนอุตสาหกรรมแบบข้ามแวดวง เดินทางเยือนฟิลิปปินส์ ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายสาขา ทั้ง ICT , เซมิคอนดักเตอร์ , พลังงาน , เทคโนโลยี AI , การผลิตอัจฉริยะ , กิจการการท่าและการท่องเที่ยว เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่า แวดวงอุตสาหกรรมไต้หวันให้ความสำคัญต่อ ศักยภาพด้านการตลาดในฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก
ไต้หวัน – ฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ใกล้กันในแง่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ และยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน ประกอบกับระบบเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย ต่างสามารถเกื้อหนุนกันอย่างลงตัว อธิบดีเหลียนฯ กล่าวว่า ความคืบหน้าด้านการพัฒนาการบริหารรูปแบบอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติของท่าเรือเกาสง ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติเป็นจำนวนบ่อยครั้ง ส่วนอ่าวซูบิกได้พัฒนาจนกลายมาเป็นฐานสำคัญทางความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรม ไต้หวัน - ฟิลิปปินส์ อันเนื่องมาจากเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าผู้ประกอบการไต้หวัน อธิบดีเหลียนฯ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนทางความร่วมมือในกิจการท่าเรือ , เทคโนโลยีทางทะเล , การคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนและเมืองอัจฉริยะ เป็นต้น
ในระหว่างนี้ คณะตัวแทนจากฟิลิปปินส์ยังได้เดินทางเยี่ยมชม Terminal 7 ในท่าเรือเกาสงของบริษัท Evergreen Marine Corp. , ท่าเรือสำราญเกาสง และแม่น้ำอ้ายเหอ เพื่อทำความเข้าใจต่อผลสัมฤทธิ์ทางการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในไต้หวัน
นอกจากนี้ “การประชุมคณะกรรมการทางเทคโนโลยีร่วมระดับรัฐมนตรี ระหว่างไต้หวัน - ฟิลิปปินส์ ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568” มีกำหนดการจัดขึ้น ณ กรุงไทเป เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีนายอู๋เฉิงเหวิน ประธานคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NSTC) และ Mr. Renato U. Solidum Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีฟิลิปปินส์ ร่วมกันเป็นประธาน ในระหว่างการประชุมได้ติดต่อเชิญผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั้งสองประเททศ เข้าร่วมรายงานผลสัมฤทธิ์ ภายใต้โครงการวิจัยความร่วมมือแบบทวิภาคี
การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นในประเด็นความร่วมมือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบทวิภาคีหลายรายการ ที่มุ่งผลักดันโดยไต้หวัน - ฟิลิปปินส์ อาทิ “ภูเขาไฟ ทะเล พายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหว” (Volcano, Ocean, Typhoon, and Earthquake, VOTE) , “การแพทย์ การเกษตร และโครงการบ่มเพาะบุคลากร” (Health, Agriculture and Training Initiative, HAT) รวมถึง “โครงการวิจัยแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - ฟิลิปปินส์” (Joint Research Program, JRP) โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายนอกจากจะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นข้างต้นแล้ว ยังได้ร่วมวางแผนทิศทางความร่วมมือและการวิจัยในแง่มุมต่างๆ ประจำปี 2569 เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสืบสานและการส่งเสริมความร่วมมือทางเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ระหว่างไต้หวัน - ฟิลิปปินส์