โฮสเทล ช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนในเมืองแห่งหนึ่งชั่วคราวด้วยราคาประหยัด เพื่อสัมผัสกับลมหายใจของผืนดินต่างถิ่น สัมผัสกับความมั่งคั่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สั่งสมต่อเนื่องกันมา และสร้างความสัมพันธ์กับดินแดนที่มีชื่อว่า “ไต้หวัน”
โฮสเทล ช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนในเมืองแห่งหนึ่งชั่วคราวด้วยราคาประหยัด เพื่อสัมผัสกับลมหายใจของผืนดินต่างถิ่น สัมผัสกับความมั่งคั่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สั่งสมต่อเนื่องกันมา และสร้างความสัมพันธ์กับดินแดนที่มีชื่อว่า “ไต้หวัน”
สืบเนื่องจากความใกล้ชิดทางด้านภูมิศาสตร์ ทำให้ไต้หวันและฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติคล้าย ๆ กัน ทั้งสองฝ่ายต่างตกอยู่ในรัศมีของสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน กลายเป็นพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน และเป็นโอกาสที่ไต้หวันกับฟิลิปปินส์ต้องจับมือร่วมกันศึกษาวิจัยค้นคว้าภัยธรรมชาติเหล่านี้ เพื่อหาแนวทางรับมือร่วมกัน
ชนพื้นเมืองไต้หวันมีการนำ “ไผ่” มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การประกอบอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย กล่าวได้ว่า “ไผ่” มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชนพื้นเมืองไต้หวันอย่างแยกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะการนำไผ่มาใช้สร้างบ้านเรือน ที่ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาทางสถาปัตยกรรมของชนพื้นเมือง ที่สั่งสมมานานนับหลายร้อยปี แต่ยังแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของชนเผ่า
ตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา เหล่านักปราชญ์ นักเขียนและจิตรกรชาวจีนต่างหลงรักต้นไผ่ มีการขับขานบทกวีและวาดภาพที่เกี่ยวกับไผ่กันอย่างแพร่หลาย ในคัมภีร์ “จื๋อจู๋จี้” (植竹記) หรือคัมภีร์ปลูกไผ่ ผลงานของหลิวเหยียนฟู (劉嚴夫) นักเขียนในยุคราชวงศ์ถัง กล่าวไว้ว่า “คุณธรรมของสัตบุรุษเปรียบดังต้นไผ่” ส่วนซูซื่อ (蘇軾) กวีเอกสมัยราชวงศ์ซ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ขาดไผ่ ไร้รสนิยม” และ “บ้านต้องไม่ขาดไผ่” จะเห็นว่า ไผ่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความสูงศักดิ์และซื่อสัตย์สุจริต
ในสังคมแห่งการค้าที่เปี่ยมด้วยความมั่งคั่งทางวัตถุ มักมีผลิตภัณฑ์มากมายรอให้ผู้บริโภคได้เลือกสรร อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปดูของใช้ในชีวิตประจำวันยุคการทำเกษตรแบบดั้งเดิม จะพบว่ามันยังคงมีความงามที่เรียบง่ายและทรงคุณค่าอย่างยาวนาน
ต้นไผ่อันเรียวงามจะเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาตลอดทั้งปี ซึ่งหลานอินติ่ง (藍蔭鼎) จิตรกรผู้เลื่องชื่อของไต้หวันได้ถ่ายทอดวิถีชีวิตชนบทในหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไผ่ไว้ในภาพสีน้ำชื่อ “พันไผ่ล้อมบ้าน” อันโด่งดัง
ไต้หวันมีทรัพยากรป่าไผ่อันอุดมสมบูรณ์ ในสังคมเกษตรกรรมดั้งเดิม ไผ่มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น การใช้ประโยชน์จากไผ่ก็พัฒนาจากความเรียบง่ายสู่ความทันสมัย และยังยกระดับจนกลายเป็นวิถีชีวิตในแบบเฉพาะตัวอีกด้วย
ฟาร์มตัวอย่างของทีมผู้เชี่ยวชาญไต้หวัน หรือ Taiwan Technical Mission (TTM) ซึ่งเปิดตัวที่ฟิลิปปินส์เมื่อปี ค.ศ. 2023 ได้ช่วยพัฒนาการดำรงชีวิตของเกษตรกรรายย่อยในท้องถิ่นให้ดีขึ้น มูลนิธิช่วยเหลือเด็กและครอบครัวไต้หวัน หรือ Taiwan Fund for Children and Families (TFCF) ประจำฟิลิปปินส์ ได้ให้ความช่วยเหลือชาวฟิลิปปินส์ ในการสร้าง “ชุมชนทรหด” ขึ้น นอกจากนี้ มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในฟิลิปปินส์ ที่ลงหลักปักฐานในฟิลิปปินส์มานานกว่า 30 ปี ได้ช่วยเหลือและรักษาพยาบาลชาวฟิลิปปินส์มาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน
ในครั้งนี้ เราจะขี่จักรยานผ่านนครไทจงในภาคกลางของไต้หวัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมการขี่จักรยานแบบใหม่กัน
“ถ้ามีจักรยานสักคัน ก็ไม่เสียชาติเกิด” นี่คือคำพูดของ มาร์ค ทเวน นักเขียนชื่อดังชาวสหรัฐฯ ซึ่งชั่วชีวิตของเขาได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยและท่องเที่ยวไว้มากมาย เมื่อเทียบกับในสมัยนั้นแล้ว ปัจจุบัน การเดินทางมีความสะดวกรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาก ทำให้ผู้คนคำนึงถึงแต่การไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด จนค่อย ๆ ลืมไปว่า เรายังสามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางได้ด้วย ในครั้งนี้ เราจะใช้จักรยานสองล้อท่องเที่ยวไปในดินแดนของเมืองอี๋หลาน ด้วยความเร็วแบบพอดีไม่รีบร้อน
หยุนหลินเป็นเมืองเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ความรู้สึกของนักปั่นจักรยานที่มีต่อเมืองหยุนหลิน หลังจากที่ได้ปั่นจักรยานสองล้อเลียบธารน้ำจากท้องทุ่งนามุ่งหน้าเข้าสู่ตำบลเล็ก ๆ แล้วก็ปั่นจากตำบลเล็ก ๆ วนกลับไปยังทุ่งนา ก็คือ กลิ่นอายของใบพืชผักสดผสมผสานกับกลิ่นไอดิน รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การสำรวจ