ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.แถลง ผลสำเร็จจากการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวัน Edwin J. Feulner,Jr.ให้คำมั่น ช่วยผลักดันการลงนาม FTA ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ
2019-02-01

“ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน(ขวา)ให้การต้อนรับ Edwin J. Feulner, Jr.(ซ้าย)ผู้ก่อตั้งสถาบัน“Heritage Foundation”คลังสมองของสหรัฐฯ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อวันที่31 ม.ค. ปธน.ไช่ฯกล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้การต้อนรับดร. Edwin J.Feulner, Jr.หลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาเป็นเวลาสองปีกว่า เฉพาะปีที่แล้ว ก็ได้มีโอกาสพบปะกันถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่าEdwin Feulner, Jr. เป็นมิตรที่ดีของไต้หวัน สำนักข่าว CNA วันที่31 ม.ค. 62“ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน(ขวา)ให้การต้อนรับ Edwin J. Feulner, Jr.(ซ้าย)ผู้ก่อตั้งสถาบัน “Heritage Foundation” คลังสมองของสหรัฐฯ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อวันที่31 ม.ค. ปธน.ไช่ฯกล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้การต้อนรับดร. Edwin J.Feulner, Jr.หลังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาเป็นเวลาสองปีกว่า เฉพาะปีที่แล้ว ก็ได้มีโอกาสพบปะกันถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่าEdwin Feulner, Jr. เป็นมิตรที่ดีของไต้หวัน สำนักข่าว CNA วันที่31 ม.ค. 62

 

สำนักข่าวCNA  วันที่31 ม.ค. 62

ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันสาธารณรัฐจีน ให้การต้อนรับ Edwin J. Feulner, Jr.ผู้ก่อตั้งสถาบัน “Heritage Foundation”คลังสมองสหรัฐฯ เมื่อวันที่31ม.ค. ที่ผ่านมา โดยได้ชี้แจงถึงความเพียรพยายามและผลลัพธ์จากการที่ไต้หวันเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการค้า อีกทั้งพัฒนาประชาธิปไตยในเชิงลึกและ บูรณาการหลักนิติธรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Edwin Feulner, Jr. ได้กล่าวว่าจะช่วยให้ไต้หวันและสหรัฐฯลงนาม ข้อตกลงการค้าเสรี(Free Trade Agreement:FTA)ร่วมกัน  อันจะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย

 

Edwin J. Feulner, Jr.ระบุว่าปีนี้เป็นปีแห่งการครบรอบ 40 ปี “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ตนจะกำชับเพื่อนในสหรัฐฯ ให้เร่งผลักดันการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เพราะนอกจากจะช่วยให้ความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้น ยังช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แข็งแกร่งขึ้นอีกระดับหนึ่งด้วย

 

ประธานาธิบดีไช่ฯแถลงขณะให้การต้อนรับEdwin Feulner, Jr.เมื่อบ่ายวันนี้ว่า การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการค้าของไต้หวัน เป็นเป้าหมายที่ท่านมุมานะมาโดยตลอด นับจากที่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นต้นมา “รายงานดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจปีค.ศ.2019(2019 Index of Economic Freedom) สะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์จากความเพียรพยายามของไต้หวันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

 

ประธานาธิบดีไช่ฯกล่าวว่า  ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กระแสโลกาภิวัฒน์แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ความท้าทายด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นำมาซึ่งโอกาสมากมาย ในขณะเดียวกัน ก็ท้าทายความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลด้วย ในช่วง2ปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลไต้หวันได้ทุ่มเทความพยายามในด้านต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนปรนข้อกฎหมาย  การสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจและการคลัง การเปิดเสรีทางการค้า และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

 

ผู้นำไต้หวันยังระบุอีกว่า ปีที่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมายบริษัท (The Companies Act)ครั้งสำคัญ โดยหวังว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่ดี เปิดกว้างและมีความยึดหยุ่น เพื่อดึงดูดบุคลากรและการลงทุนของธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจไต้หวันทั้งระบบ เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทกูเกิลได้สั่งซื้อ Green Powerจากบริษัทไต้หวันแสดงให้เห็นว่าธุรกิจข้ามชาติยอมรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของไต้หวันแล้ว

 

นอกจากด้านเศรษฐกิจแล้ว ประธานาธิบดีไช่ฯยังกล่าวอีกว่า ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมที่สมบูรณ์เป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของไต้หวัน ดังนั้นในขณะที่ผลักดันการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ยังต้องพัฒนาประชาธิปไตยในเชิงลึกและบูรณาการหลักนิติธรรมอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กันไปด้วย

 

ผู้นำไต้หวันระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯกับไต้หวันมีการแบ่งปันและเสนอแนวคิดภายใต้ค่านิยมที่ตรงกัน ทำให้มิตรภาพระหว่างทั้งสองฝ่ายแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่าคงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกท่าน  เมื่อเร็วๆนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้สนับสนุนไต้หวันกลับเข้าสู่องค์การอนามัยโลก(WHO) นอกจากนี้สหรัฐฯยังแสดงความชื่นชมความพยายามในการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร องค์การอนามัยโลก ขอขอบคุณการสนับสนุนของสหรัฐฯเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าในอนาคตจะเร่งพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันสร้างคุณประโยชน์ให้แก่โลก