เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 62 นายหลินซันกุ้ย รมช. แรงงานและรองประธานองค์กร World Skills International กล่าวแถลงว่า ศูนย์ WSI Capacity Building Centre แห่งที่ 2 ของโลก จะตั้งขึ้นในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในภาพคือนายหลินซันกุ้ยขณะเข้าร่วมการประชุมองค์กรWSIประจำปี (ภาพจากนายหลินซันกุ้ย) สำนักข่าว CNAวันที่ 9 มี.ค. 62

สำนักข่าว CNAวันที่ 9 มี.ค. 62

องค์กร World Skills International (WSI) ซึ่งก่อตั้งมาเป็นระยะเวลานานกว่า 69 ปี จะจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารขึ้นเป็นครั้งแรกในสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และในระหว่างนี้ จะร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานพัฒนาแรงงานไต้หวัน (Taiwan Workforce Development Agency) เพื่อร่วมกันก่อตั้งศูนย์ Capacity Building Centre แห่งที่ 2 ขึ้นในไต้หวัน เพื่อช่วยเหลือประเทศกลุ่มเป้าหมายในนโยบายมุ่งใต้ใหม่และแอฟริกา ในด้านการพัฒนาทักษะการทำงานให้กับเหล่าแรงงานในประเทศ

การแข่งขันงานฝีมือแรงงานนานาชาติ (World Skills Competition) จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้การดำเนินการจัดตั้งของสเปนในปี 1950 ปัจจุบันประเทศสมาชิกขององค์กร World Skills International (WSI) มีมากกว่า75 ประเทศ/เขตพื้นที่ จุดมุ่งหมายของ WSI คือ ใช้กิจกรรมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ หรืองานสัมมนาเป็นสื่อกลาง เพื่อเพิ่มโอกาสให้เยาวชนผู้มีผีมือของแต่ละประเทศได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ผ่านการสังเกตการ์ณ ทำความเข้าใจ และประลองฝีมือ อันจะเป็นการส่งเสริมการฝึกอบรมทางวิชาชีพ แลกเปลี่ยนข้อมูลการศึกษาด้านอาชีวะ และเพิ่มพูนประสบการณ์ในระดับนานาชาติ อันจะถือเป็นการส่งเสริมการฝึกอบรมทางวิชาชีพและการพัฒนาด้านการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในแต่ละประเทศด้วย

การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติจะจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยประเทศสมาชิกสามารถแสดงเจตจำนงในการขอเป็นเจ้าภาพจัดงานได้ ปัจจุบันจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 43 แล้ว โดยไต้หวันเข้าเป็นสมาชิกของ WSI ตั้งแต่ปี 1970 และตั้งแต่ครั้งที่ 20 เป็นต้นมา ก็ได้จัดตัวแทนไปร่วมแข่งขันด้วยในทุกครั้ง ซึ่งมักจะสามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง

นายหลินซันกุ้ย รมช. แรงงานและรองประธานองค์กร World Skills International ได้ให้สัมภาษณ์ว่า World Skills International ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลานานกว่า 69 ปี การประชุมคณะกรรมการบริหารจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในสัปดาห์นี้ โดยประธาน รองประธานและคณะกรรมการของ WSI จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในไต้หวันด้วย

ทั้งนี้ ประธาน WSI และคณะฯ นอกจากจะเดินทางมาร่วมการประชุมฯ แล้ว ยังมีจุดประสงค์ที่สำคัญ คือ การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานพัฒนาแรงงาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการของไต้หวัน เพื่อก่อตั้งศูนย์ Capacity Building Centre แห่งที่ 2 ขึ้นที่ีไต้หวัน

นายหลินซันกุ้ยกล่าวว่า ศูนย์ Capacity Building Centre จัดขึ้นเพื่อการช่วยเหลือประเทศกลุ่มเป้าหมายในนโยบายมุ่งใต้ใหม่และแอฟริกา ในด้านการพัฒนาทักษะและฝีมือของแรงงานในประเทศ โดยจะให้บริการทั้งในด้านการตอบข้อสอบถามทางเทคนิค ช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมบุคลากร จัดตั้งศูนย์อบรมวิชาชีพเฉพาะทางบางประเภท อาทิ งานอุตสาหกรรมช่างไม้ และเครื่องจักรกล ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ไต้หวันมีความชำนาญเป็นอย่างมาก

นายหลินซันกุ้ยยังเปิดเผยว่า การช่วยผลักดันการอบรมทางวิชาชีพของประเทศอื่น ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้แข่งขันชาวไต้หวันได้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น โดยการก้าวออกจากประเทศของตน ทั้งยังสามารถกระตุ้นการพัฒนาทางอุตสาหกรรมในภายภาคหน้า ไม่ว่าจะในด้านความเป็นมืออาชีพ สื่อการเรียนการสอน เครื่องไม้เครื่องมือ และการบำรุงรักษา เป็นต้น

นายหลินซันกุ้ยกล่าวว่า นอกจากสมาชิกของWSIแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังได้เรียนเชิญประธานคณะกรรมการตัดสินและตัวแทนของประเทศในรุ่นปี 2013 – 2017 รวม 3 รุ่น มาเข้าร่วมการประชุม เพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ในการก่อตั้งศูนย์ Capacity Building Centre แห่งที่ 2 ของโลกขึ้นในไต้หวันด้วย