ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ หวังร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค
2019-06-26

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ปธน. ไช่อิงเหวิน (ขวา) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทน “นโยบายโครงการไต้หวัน – สหรัฐฯ” (TUPP) ของศูนย์วิจัย CSIS โดยหวังว่าคณะตัวแทนจะเข้าใจไต้หวันมากขึ้น จากการเดินทางเยือนในครั้งนี้ สำนักข่าว CNA วันที่ 25 มิ.ย. 62

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ปธน. ไช่อิงเหวิน (ขวา) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทน “นโยบายโครงการไต้หวัน – สหรัฐฯ” (TUPP) ของศูนย์วิจัย CSIS โดยหวังว่าคณะตัวแทนจะเข้าใจไต้หวันมากขึ้น จากการเดินทางเยือนในครั้งนี้ สำนักข่าว CNA วันที่ 25 มิ.ย. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 25 มิ.ย. 62

 

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทน “นโยบายโครงการไต้หวัน - สหรัฐฯ” (Taiwan- U.S. Policy Program, TUPP) แห่งศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies, CSIS) ของสหรัฐฯ โดยปธน.ไช่ฯ เห็นว่า นอกจากไต้หวันจะสามารถปกป้องวิถีชีวิตแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยแล้ว ยังยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ด้านประชาธิปไตยกับประชาคมโลก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค


 

โดยในช่วงเช้าของวันที่ 25 มิ.ย. ปธน.ไช่ฯ ได้กล่าวระหว่างให้การต้อนรับคณะ TUPP แห่งศูนย์วิจัย CSIS ว่า เนื่องในปีนี้เป็นวาระครบรอบ 40 ปีแห่งการบัญญัติกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ช่วงระหว่างเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัย CSIS พร้อมด้วยคณะตัวแทนคลังสมองของสถาบันบรูก กิงส์ (Brookings Institution) และศูนย์วิจัยวิลสัน (Wilson Center) แห่งสหรัฐฯ จึงได้ร่วมจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ขึ้นเป็นวาระพิเศษ


 

ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า ตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวันถึง 3 ครั้ง ประกอบกับการให้สิทธิประโยชน์ในการข้ามแดนระหว่างประเทศ การเยี่ยมเยือนระหว่างกันของเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงการผ่านญัตติร่างกฎหมายที่สำคัญๆ หลายฉบับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต่างมีส่วนช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการป้องกันประเทศของไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ก็มีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ปีที่แล้วไต้หวันเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของสหรัฐฯ โดยในปีนี้ได้มีการจัดส่งคณะผู้แทนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเดินทางเข้าร่วม “การประชุมสุดยอดการลงทุนแห่งสหรัฐ ปี 2019” (Select USA Investment Summit 2019) ที่จัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกาที่จัดขึ้นในเดือนนี้ด้วย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น


 

ปธน.ไช่ฯ ยังเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ต่างยึดหลักแห่งประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายถือเป็นพลังบวกที่สำคัญของภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ไต้หวันให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศที่มีแนวความคิดคล้ายกัน ในการอุทิศตนในประเด็นสำคัญของประชาคมโลกต่อไป


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ได้มีการปรับแก้ข้อกฎหมายหลายฉบับของไต้หวัน ในประเด็นที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการปกป้องความมั่นคงปลอดภัยในทุกด้านของไต้หวัน


 

ปธน.ไช่ฯ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากไต้หวันจะปกป้องไว้ซึ่งวิถีชีวิตแบบเสรีประชาธิปไตยแล้ว ยังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันประสบการณ์ด้านประชาธิปไตยกับประชาคมโลก และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ เช่น กรอบความร่วมมือ GCTF จะสามารถร่วมสร้างคุณูปการที่มากยิ่งขึ้น ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ ให้เกิดแก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกสืบไป