ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวันเผยผลสำรวจสถานการณ์ธุรกิจร้านสะดวกซื้อประจำปี 2018
2019-09-16

วันที่ 11 ก.ย. คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าของไต้หวันเผยผลสำรวจล่าสุดพบ ในไต้หวันทุกๆ 1 ตารางกิโลเมตรมีร้านสะดวกซื้อจำนวน 0.31 แห่ง (สำนักข่าว CNA)

วันที่ 11 ก.ย. คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าของไต้หวันเผยผลสำรวจล่าสุดพบ ในไต้หวันทุกๆ 1 ตารางกิโลเมตรมีร้านสะดวกซื้อจำนวน 0.31 แห่ง (สำนักข่าว CNA)

คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า สภาบริหาร วันที่ 11 ก.ย. 62
 

วันที่ 11 ก.ย. คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าของไต้หวัน เผยผลสำรวจสถานการณ์ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เพื่อทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตและแนวโน้มการบริโภคของคนไต้หวัน ระบุ ไต้หวันมีจำนวนร้านสะดวกซื้อในปี 2018 ทั้งสิ้น 10,905 แห่ง ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยรายปี 3.58% ทุบสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยพบว่าทุกๆ หนึ่งตารางกิโลเมตรจะมีร้านสะดวกซื้อ 0.31 แห่ง และมีความหนาแน่นของจำนวนร้านสะดวกซื้อเป็นรองเพียงแค่เกาหลีใต้

 

ผลการสำรวจดังกล่าวพบว่า จนถึงสิ้นปี 2018 แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ 5 รายของไต้หวัน ได้แก่ เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ไฮไลฟ์ โอเคมาร์ท และมิลเลี่ยน มีจำนวนร้านสะดวกซื้อรวมทั้งสิ้น 10,905 แห่ง เพิ่มขึ้นจากสถิติในปี 2017 จำนวน 377 แห่ง มีอัตราเติบโตรายปีเฉลี่ยอยู่ที่ 3.58% นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ 7 ปี

 

หากวิเคราะห์จากจำนวนประชากรพบว่า ไต้หวันมีจำนวนประชากรทุก 2,163 คน ต่อร้านสะดวกซื้อ 1 แห่ง แต่หากพิจารณาจากความหนาแน่นของจำนวนร้านต่อพื้นที่ พบว่าร้านสะดวกซื้อในไต้หวันมีความหนาแน่นมากเป็นอันดับสองของโลก โดยทุกๆ 1 ตารางกิโลเมตร จะมีร้านสะดวกซื้อจำนวน 0.31 แห่ง โดยเป็นความหนาแน่นที่มากกว่าในประเทศญี่ปุ่นและเป็นรองเพียงแค่เกาหลีใต้เท่านั้น

 

นอกจากสถานการณ์การกระจายตัวของร้านสะดวกซื้อแล้ว ผลการสำรวจฉบับดังกล่าวยังได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับความเคยชินของผู้บริโภคด้วย ซึ่งคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าเปิดเผยว่า ในปี 2018 คนไต้หวันใช้บริการร้านสะดวกซื้อรวมทุกสาขาของแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 รายของไต้หวัน มีจำนวนสูงถึง 3,084 ล้านคนครั้ง หรือมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยราว 79 เหรียญไต้หวันต่อคนต่อครั้ง สินค้าที่นิยมซื้อส่วนใหญ่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เครื่องดื่ม ข้าวกล่อง แซนด์วิชและอาหารอุ่นร้อน โดยยอดจำหน่ายของสินค้ากลุ่มข้าวกล่อง แซนด์วิชและอาหารอุ่นร้อนในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญไต้หวัน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้ออาหารรับประทานนอกบ้านจากร้านสะดวกซื้อมากขึ้น