เมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ไช่อิงเหวินได้เดินทางเยือน “สถาบันสอนทำเจลาตินดอกไม้ 3 มิติ” และได้พบปะพูดคุยกับคุณอู่ฟางเฉ่า (กลาง) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนาม ด้านขวามือในภาพคือ นายเฉินโอวปั้ว ส.ส.เมืองอี๋หลาน (ทำเนียบปธน.ไต้หวัน)
ทำเนียบปธน.ไต้หวัน วันที่ 6 ต.ค. 62
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 ต.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางไปเยือนเมืองอี๋หลาน เพื่อเข้าเยี่ยมชม “สถาบันสอนทำเจลาตินดอกไม้ 3 มิติ” พร้อมแถลงว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลไต้หวันมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ในด้านการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตบรรดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน จะมีบทบาทมากขึ้นในสังคมไต้หวัน เพื่อสำแดงศักยภาพอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ครั้งที่แล้วหลังจากได้ลิ้มลองรสชาติวุ้นฝีมือของคุณอู่ฟางเฉ่า (Vu Phuong Thao) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเวียดนาม ก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก วันนี้มีกำหนดการเยือนเมืองอี๋หลานพอดี จึงได้แวะเวียนมาชมวิธีการทำวุ้นดอกไม้อันแสนอร่อย ซึ่งนอกจากจะได้พบปะกับคุณอู่ฟางเฉ่า เพื่อลิ้มรสวุ้นแสนอร่อยของเธออีกครั้ง ยังได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่หลายคน ที่มาร่วมเนรมิตศิลปะอันงดงามในวุ้นเจลาตินด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่หลายคน เข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในไต้หวัน ทำให้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของไต้หวัน ถูกแต่งแต้มสีสันและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ปธน.ไช่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บุตรหลานของพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จะมีความสามารถด้านทักษะภาษาแม่ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันแนบแน่น ระหว่างไต้หวันกับประเทศเป้าหมายนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกันของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และเยาวชนรุ่นหลังสืบไป
ปธน.ไช่ฯ ขอบคุณกระทรวงมหาดไทยสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่ในช่วงที่ผ่านมา ได้ดำเนินการภารกิจต่างๆ ในการดูแลพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยเฉพาะการจัดตั้ง “กองทุนพัฒนาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่” เพื่อให้บริการแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรหลาน ทางด้านรัฐบาลกลางไต้หวันก็ได้จัดตั้ง “สายด่วนให้บริการข้อมูลการใช้ชีวิตในไต้หวันสำหรับชาวต่างชาติ” เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ และในช่วงที่ผ่านมานี้ ทางสำนักงานได้ยืดเวลาให้บริการช่วงกลางคืนแก่ผู้มาใช้บริการ เนื่องจากในช่วงกลางวัน พี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่หลายคนจำเป็นต้องทำงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ในการทำธุรกรรมต่างๆ ให้กับพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่
ปธน.ไช่ฯ แถลงปิดท้ายว่า ช่วง 3 ปีมานี้ รัฐบาลไต้หวันมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ในด้านการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า 4 ปีหลังจากนี้ จะเร่งกระตุ้นให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ มีบทบาทมากขึ้นในสังคมไต้หวัน เพื่อสำแดงศักยภาพอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ตลอดจนทำให้สังคมไต้หวันสัมผัสได้ถึง การมีพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่อาศัยร่วมกันกับเรา เป็นเรื่องที่ดีและน่าภาคภูมิใจ นับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ร่วมสู้ไปพร้อมกับสังคมไต้หวัน