ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว. ต่างประเทศฯไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่รายการ “The Story with Martha MacCallum” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
2020-05-13

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. รมว. ต่างประเทศได้ตอบรับให้สัมภาษณ์ต่อรายการของสถานีโทรทัศน์ Fox News แห่งสหรัฐอเมริกา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (ภาพจาก MOFA)

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. รมว. ต่างประเทศได้ตอบรับให้สัมภาษณ์ต่อรายการของสถานีโทรทัศน์ Fox News แห่งสหรัฐอเมริกา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (ภาพจาก MOFA)

MOFAวันที่ 12 พ.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Ms. Martha MacCallum พิธีกรรายการ “The Story with Martha MacCallum” ของสถานีโทรทัศน์ Fox News ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งรายการดังกล่าวออกอากาศเป็นประจำทุกวัน ในเวลา 19:00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ โดยในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ พิธีกรและ รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมหารือกันในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) และการเข้ามีส่วนร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) ของไต้หวัน เป็นต้น


 

Ms. Martha พิธีกรรายการฯ เริ่มต้นด้วยการถามความคิดเห็นของ รมว. อู๋ฯ เกี่ยวกับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (South China Morning Post, SCMP) ของฮ่องกง ที่ระบุว่า จีนกำลังพยายามหาทางลดความร้อนแรงของ “อุดมการณ์ชาตินิยม” เพื่อตอบสนองต่อเสียงสนับสนุนให้ใช้กำลังอาวุธในการผนวกรวมไต้หวัน  รมว.อู๋ฯ ตอบประเด็นดังกล่าวว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา จีนพยายามอาศัย “สันติวิธี” ตามความเข้าใจของจีนเพียงฝ่ายเดียว เพื่อต้องการเข้าครอบครองไต้หวัน และไม่ปฏิเสธที่จะใช้กำลังอาวุธหากมีความจำเป็น ดังนั้น ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไต้หวันจึงได้เตรียมการรับมือกับภัยคุกคามทางทหารที่จีนต้องการโจมตีไต้หวัน อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง สำหรับการรุกรานไต้หวันในช่วงวิกฤตโควิด – 19 เช่นนี้ มิใช่วิธีการป้องกันโรคระบาดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลจีนเผชิญหน้ากับความกดดันที่ประชาชนในประเทศมีต่อรัฐบาลสีจิ้นผิง อาจเป็นชนวนที่ทำให้จีนกระทำการใดๆ ที่ทำให้ไต้หวันกลายเป็นแพะรับบาป แต่ถึงกระนั้น ในฐานะตัวแทนของไต้หวัน รมว.อู๋ฯ ยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยสมบรูณ์ และไม่อนุญาตให้ประเทศใดรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของเราได้ ทางด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้แสดงความกล้าหาญทางคุณธรรม ในการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้อนุมัติแผนจำหน่ายยุทโธปกรณ์ให้กับไต้หวันอย่างสม่ำเสมอ ไต้หวันจึงขอแสดงความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย


 

ในส่วนของการที่ประชาคมโลกต่างทยอยเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงครามโควิด – 19 จากจีน ซึ่งเป็นต้นตอของความเสียหายทั้งหมดนี้ และประเด็นที่จีนปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดล่าสุดในประเทศนั้น รมว. อู๋ฯ ชี้แจงว่า ภารกิจที่สำคัญอันดับต้นๆ ในขณะนี้ คือการตรวจสอบต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ชนิดนี้ เพียงค้นพบแหล่งที่มา ทั่วโลกก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และประเทศในแถบยุโรป ต่างก็ทยอยเรียกร้องขอตรวจสอบแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสฯ ในพื้นที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งผลจากการตรวจสอบในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ประชาคมโลกและไต้หวันในการสกัดกั้นโรคระบาดต่อไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด - 19 ในไต้หวันไม่รุนแรงเท่าประเทศอื่น เพราฉะนั้นการเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงครามโควิด – 19 จากจีน จึงยังไม่ใช่จุดประสงค์หลักของไต้หวันในขณะนี้


 

ทั้งนี้ พิธีกรรายการฯ ยังได้ชื่นชมถึงความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน พร้อมระบุว่า Mr. Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องต่อประธานกรรมการบริหาร WHO ในการเชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) ที่จะจัดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างเปิดเผย แต่ดูเหมือนว่าจะส่งผลให้จีนเกิดความไม่พอใจ และคิดว่าการที่ไต้หวันเร่งผลักดันตนเองในการเข้าร่วมการประชุม WHA และกิจกรรมต่างๆ ของ WHO  นั้น เป็นแผนการทางการเมืองของไต้หวัน ที่ต้องการ “แยกตัวเป็นอิสระโดยอาศัยวิกฤตโควิด – 19 เป็นแรงผลักดัน” รมว. อู๋ฯ กล่าวแสดงความขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุม กิจกรรม และกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ WHO การที่ไต้หวันถูกกีดกันให้อยู่นอกระบบสาธารณสุขโลกของ WHO มาเป็นเวลานาน ไม่ใช่วิธีการและการตัดสินใจที่เหมาะสม ยกตัวอย่างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในครั้งนี้ หากไต้หวันได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก WHO แต่เนิ่นๆ ไต้หวันก็จะสามารถร่วมผนึกกำลัง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาคมโลกอย่างทันท่วงที สำหรับรัฐบาลจีนที่ได้ประกาศต่อโลกภายนอกว่า ไต้หวันได้รับการดูแลทางการแพทย์จากจีนนั้น เป็นคำโกหกหลอกลวงที่ไม่ควรเชื่อถือ ในตอนท้าย รมว. อู๋ฯ เน้นย้ำหนักแน่นว่า ไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน มีสิทธิเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ ในการเข้าร่วมการประชุม WHA และการประชุมนอกรอบต่างๆ ซึ่งไต้หวันมีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดที่ประสบความสำเร็จ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลก