ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเดนมาร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลเดนมาร์กเคารพต่อเจตจำนงของชาวไต้หวัน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของจีน
2024-04-08
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเดนมาร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลเดนมาร์กเคารพต่อเจตจำนงของชาวไต้หวัน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของจีน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเดนมาร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลเดนมาร์กเคารพต่อเจตจำนงของชาวไต้หวัน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของจีน (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 4 เม.ย. 67
 
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ต่อ Mr. Alexander Sjöberg ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ Berlingske ของเดนมาร์ก ที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน โดย รมว.อู๋ฯ ได้กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเดนมาร์กเปลี่ยนแปลงข้อมูลถิ่นกำเนิดที่ปรากฎบนบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าวของชาวไต้หวันที่พำนักในเดนมาร์ก จาก “สาธารณรัฐจีน” เป็น “จีน” ซึ่ง รมว.อู๋ฯ ได้เรียกร้องให้เดนมาร์กให้ความเคารพต่อเจตจำนงทางเสรีภาพของประชาชนชาวไต้หวัน พร้อมทั้งขอให้เดนมาร์กตระหนักเห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่าสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน มิได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกตีพิมพ์ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ของวันที่ 3 เม.ย. 2567 ในหัวข้อ “รมว.กต.ไต้หวัน ชี้ จีนเตรียมหาผลประโยชน์จากการตัดสินใจของเดนมาร์ก” ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากประชาคมโลก
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ตนเคยเดินทางเยือนเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในการประชุมสุดยอดประชาธิปไตยโคเปนเฮเกน ปี พ.ศ. 2562 (The Copenhagen Democracy Summit 2019) เดนมาร์กเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่ตนเดินทางไปเยือนหลังเข้ารับตำแหน่งรมว.กต.ไต้หวันได้ไม่นาน ด้วยเหตุนี้ เดนมาร์กจึงถือเป็นประเทศแห่งความทรงจำอันมีค่าของรมว.อู๋ฯ ที่ไม่อาจลบเลือนได้ รมว.อู๋ฯ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ กลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกต่างประสานสามัคคีในการสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ จึงหวังที่จะเห็นเดนมาร์กแสดงบทบาทในการเป็นต้นแบบประเทศประชาธิปไตย ด้วยการให้ความเคารพต่อเจตจำนงของชาวไต้หวัน และยอมรับให้ชาวไต้หวันมีเสรีภาพในการถูกเรียก มิใช่เป็นการยัดเยียดให้ไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตย ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่เป็นเผด็จการ
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ประชาชนชาวไต้หวันต่างรู้สึกชื่นชมเดนมาร์กและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ที่ให้การสนับสนุนต่อยูเครนอย่างหนักแน่น ซึ่งจีนก็พยายามเข้าครอบครองไต้หวันอย่างไม่ลดละ เช่นเดียวกับที่รัสเซียรุกรานยูเครน หากเดนมาร์กเห็นว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในจีน ก็เท่ากับว่าเดนมาร์กกำลังถูกจีนใช้ประโยชน์ และสนับสนุนว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือไต้หวันตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้จีนเข้ารุกรานไต้หวันด้วยกำลังอาวุธได้ตามอำเภอใจ การกำหนดให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน จะส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกอย่างรุนแรง จึงหวังที่จะเห็นประชาชนชาวยุโรปให้การสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อไต้หวัน ในการต่อสู้กับแรงกดดันจากอำนาจเผด็จการ
 
รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า ไต้หวันมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง การระบุให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน เป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง ซึ่งเปรียบเสมือนกับการระบุว่ายูเครนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการส่งผลในเชิงลบต่อสภาพจิตใจของประชาชน นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้อ้างอิง “รายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายการต่างประเทศและความมั่นคงร่วมกันประจำปี (Common Foreign and Security Policy, CFSP)” ที่ได้รับการลงมติจากรัฐสภายุโรปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่า การกำหนดให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน มิได้อยู่บนพื้นฐานใดๆ ของกฎหมายระหว่างประเทศ  ไต้หวันและจีนมิได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน มีเพีนงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่มีสิทธิเป็นตัวแทนของชาวไต้หวันบนเวทีนานาชาติ ด้วยเหตุนี้ รมว.อู๋ฯ จึงขอเรียกร้องให้เดนมาร์กและสหภาพยุโรป (EU) ยึดมั่นในจุดยืนเดียวกัน ด้วยการเรียกพวกเราว่า ไต้หวัน เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศสมาชิกของ EU
 
นอกจากนี้ รายงานข่าวฉบับนี้ยังได้หยิบยกการตอบประเด็นข้อซักถามของ Mr. Lars Løkke Rasmussen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเดนมาร์ก เกี่ยวกับกรณีการระบุถิ่นกำเนิดของประชาชนชาวไต้หวันลงบนบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว โดย รมว.Rasmussen ชี้ว่า จะทำความเข้าใจกับที่มาที่ไปของเหตุการณ์ข้างต้นอย่างละเอียด และจะยึดมั่นในทัศนคติที่เปิดกว้างเกี่ยวกับการแสวงหาแนวทางในการหลีกเลี่ยงมิให้มีการระบุถึงถิ่นกำเนิดของชาวไต้หวันด้วยข้อมูลที่ขัดแย้งต่อความเป็นจริง