ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
บรรดานักธุรกิจชาวไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเล บริจาคเวชภัณฑ์ในการป้องกันโรคระบาดให้กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
2020-05-26
New Southbound Policy。ภาพบรรยากาศของพิธีบริจาคเมื่อวันที่ 21 พ.ค. โดยตัวแทนคณะกรรมการประสานสถานการณ์ไวรัสโควิด - 19 ไทย – ไต้หวัน ได้มอบสิ่งของบริจาค ให้แก่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (ภาพจาก TECO)
ภาพบรรยากาศของพิธีบริจาคเมื่อวันที่ 21 พ.ค. โดยตัวแทนคณะกรรมการประสานสถานการณ์ไวรัสโควิด - 19 ไทย – ไต้หวัน ได้มอบสิ่งของบริจาค ให้แก่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (ภาพจาก TECO)

TECO วันที่ 21 พ.ค. 63

 

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประสานสถานการณ์ไวรัสโควิด - 19 ไทย – ไต้หวัน (คณะกรรมการฯ) ได้เดินทางไปยังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ประสงค์จะบริจาค โดยมีนางหลินเหอเพ่ยเจวียน นายกสมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย และนางกัวซิวหมิ่น นายกสมาคมการค้าไทย – ไต้หวัน เข้าร่วมเป็นตัวแทน นอกจากนี้ นางเฉินเมี่ยวอิน นายกสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจโลกของไต้หวัน (Global Federation of Chinese Business Women, GFCBW) สาขาประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมบริจาคในครั้งนี้ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเจ้าหน้าที่ทั่วไปเข้าร่วม อีกทั้งยังได้เชิญนายสือปั๋วซื่อ รองผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย


 

กิจกรรมบริจาคในครั้งนี้ดำเนินการวางแผนโดยสมาคม GFCBW ซึ่งสิ่งของที่ประสงค์จะบริจาคในครั้งนี้ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จำนวน 500 ชุด เพื่อมอบให้กับประชาชนและครอบครัวผู้ยากไร้ในพื้นที่ โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณสำหรับน้ำใจของบรรดานักธุรกิจไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเลในไทย พร้อมระบุว่า กลุ่มเป้าหมายที่ทางมูลนิธิปวีณาฯ ให้บริการ ส่วนมากเป็นเด็กและสตรีผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับการทารุณกรรม ซึ่งขณะนี้พวกเขาเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดำรงชีวิตและการทำงานของเหล่าสตรียิ่งประสบกับอุปสรรคที่เพิ่มมากขึ้น จึงขอขอบคุณสมาคม GFCBW ที่ได้รวบรวมทรัพยากรกำลังคนและสิ่งของบริจาค เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ชุมชน อย่างกระตือรือร้น


 

นางเฉินฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า กิจกรรมบริจาคในครั้งนี้เปี่ยมด้วยความหมายที่พิเศษยิ่ง เนื่องจากได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ยากไร้ในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบเวชภัณฑ์ในการป้องกันโรคระบาดและสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ให้แก่บรรดาสตรีที่ประสบกับความยากลำบาก และต้องเผชิญกับภาวะตกงานอันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคโควิด - 19 ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้พวกเขาก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ นางหลินฯ ยังกล่าวเสริมว่า สมาคม GFCBW เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งมอบความห่วงใยต่อบรรดาสตรีของมูลนิธิปวีณาฯ มาเป็นเวลานาน อีกทั้งมีความห่วงใยต่อเด็ก สตรี และครอบครัวยากไร้ที่ประสบกับปัญหาความยากลำบากอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ของสมาคม GFCBW จึงยินดีเข้าร่วมในกิจกรรมบริจาคครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง


 

นายสือฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ขอขอบคุณสมาคม GFCBWที่ได้จัดกิจกรรมบริจาคในครั้งนี้ขึ้นอย่างกระตือรือร้น แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความร่วมมือในการตอบแทนคืนสู่สังคมไทยของเหล่าผู้ประกอบการชาวไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเลในไทย และขอขอบคุณ คุณปวีณาที่นำเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ทุ่มเทในภารกิจการสร้างหลักประกันทางสิทธิมนุษยชนให้กับเด็กและสตรีมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ เนื่องด้วยความพยายามและผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากนานาชาติ ไต้หวันจึงมีความยินดีที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกแวดวงในไทย ซึ่งเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ รัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้บริจาคหน้ากากอนามัย จำนวน 200,000 ชิ้นให้กับไทย และในอนาคตจะร่วมบริจาคเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่สำคัญ เพื่อร่วมสกัดกั้นโรคระบาดไปพร้อมกับรัฐบาลและประชาชนชาวไทยต่อไป


 

นางกัวฯ ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการฯ กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ว่า นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในไทยเป็นต้นมา ชาวไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเลทุกแวดวงได้รวมตัวกันจัดตั้งคณะกรรมการประสานสถานการณ์ไวรัสโควิด - 19 ไทย – ไต้หวัน เพื่อบูรณาการทรัพยากรและผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน ร่วมสกัดกั้นโรคระบาดไปพร้อมกับรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ซึ่งตราบจนปัจจุบัน คณะกรรมการฯ กลุ่มนี้ได้บริจาคเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันให้กับหน่วยงานรัฐบาลของไทย สถานพยาบาล และกลุ่มสวัสดิการสังคมในหลายพื้นที่ของไทย โดยคาดหวังว่า จะผ่านพ้นอุปสรรคจากโรคระบาดในครั้งนี้ไปด้วยกัน สะท้อนให้เห็นถึงการแสดงความห่วงใยอย่างเป็นรูปธรรม และสปิริตดั่งสโลแกนที่ว่า “ดวงใจไต้หวัน สานสัมพันธ์ไทย”