ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ไต้หวันจะเปิดให้ชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวันได้อย่างมีเงื่อนไข ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
2020-07-23
New Southbound Policy。เมื่อวันที่ 22 ก.ค. CECC ประกาศเปิดให้ชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวันได้อย่างมีเงื่อนไข ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป (ภาพจาก UDN)
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. CECC ประกาศเปิดให้ชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวันได้อย่างมีเงื่อนไข ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป (ภาพจาก UDN)

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 22 ก.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) ของไต้หวัน แถลงว่า ไต้หวันได้มีการผลักดันการให้บริการทางการแพทย์นานาชาติมาเป็นระยะเวลานาน นอกจากจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวัน แล้ว ยังมีสื่อต่างประเทศรายงานข่าวดังกล่าวนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งได้นำไปสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ไต้หวันได้ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางเข้า – ออกประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. เป็นต้นมา โดยจำกัดมิให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ทำให้ผู้ป่วยต่างชาติบางส่วนไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามารับการรักษาในไต้หวันได้


 

ขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 ในไต้หวันได้ทุเลาลงแล้ว ประกอบกับไต้หวันมีขีดความสามารถเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ประชาคมโลก เพื่อสานต่อหลักการ “Taiwan can help, and Taiwan is helping” นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้เป็นต้นไป นอกจากการตรวจสุขภาพและศัลยกรรมความงาม ซึ่งเป็นการรักษาที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ผู้ป่วยจากนานาประเทศที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามารับการรักษาที่เร่งด่วนในไต้หวัน สามารถยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวัน ผ่านหน่วยงานด้านการแพทย์ของไต้หวัน โดยกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จะทำการพิจารณาจากเกณฑ์การประเมิน ดังนี้ ความจำเป็นในการเข้ารับการรักษา ความต่อเนื่องในการรักษา และความเสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวต่างชาติ ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ในไต้หวัน


 

CECC ชี้แจงว่า ชาวต่างชาติที่มีความจำเป็นในการเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวัน สามารถยื่นขอให้คู่สมรสหรือเครือญาติใน 3 ลำดับแรก ติดตามมาด้วย 2 คน หากมีความจำเป็นอนุญาตให้เพิ่มผู้ติดตาม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือพยาบาลพิเศษในประเทศนั้นๆ อีก 1 คน โดยต้องแนบเอกสารดังนี้ กรมธรรม์ประกันชีวิต หนังสือรับรองการตรวจโรค ใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทาง 3 วัน แผนปฏฺิบัติการด้านการป้องกันโรคระบาดหลังการเดินทางเข้าสู่ไต้หวันที่จัดทำโดยสถานพยาบาลแพทย์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลผู้ป่วยรายนั้นๆ รวมถึงแผนการรักษา เป็นต้น


 

CECC ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยและผู้ติดตามที่ได้รับอนุมัติให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ต้องยื่นแสดงหลักฐานใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทาง 3 วัน เป็นภาษาอังกฤษ ต่อเจ้าหน้าที่สายการบินขณะเช็คอิน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว จำเป็นต้องทำการกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคระบาดเป็นเวลา 14 วัน และต้องให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 หลังครบกำหนดการกักตัว ผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบ จึงจะอนุญาตให้เริ่มเข้ารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลไต้หวันได้ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาฉุกเฉิน สถานพยาบาลมีหน้าที่จัดให้ผู้ป่วยเข้าพำนักในห้องพักผู้ป่วยพิเศษหรือห้องแยกโรคความดันลบได้ทันที


 

นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการรักษาตัวที่ไต้หวัน ผู้ยื่นขอต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตนเอง ประกอบด้วย ค่าตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ค่าธรรมเนียมการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ โดยทางสถานพยาบาลที่รับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยรายนั้นๆ มีหน้าที่ต้องจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตามมาตรการป้องกันโรคระบาด และอุปกรณ์การตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ไว้สำหรับผู้ป่วยต่างชาติ อาทิ โรงแรมที่พักสำหรับการกักตัว การจัดให้มีรถรับ-ส่ง ตามระเบียบด้านการป้องกันการแพร่ระบาด เป็นต้น


 

CECC เน้นย้ำว่า ในขณะที่ไต้หวันสำแดงศักยภาพการให้บริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพ และตอบแทนด้วยการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลก ไต้หวันยังคงยึดมั่นในมาตรการควบคุมการเดินทางเข้า – ออกประเทศอย่างเข้มงวด ต่อกรณีการเปิดให้ผู้ป่วยจากต่างประเทศยื่นขอเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ไต้หวันนั้น รัฐบาลและหน่วยงานด้านการแพทย์ได้มีการวางแผนมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดไว้อย่างครบวงจร เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในชุมชนหรือสถานพยาบาลหลังจากที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชนชาวไต้หวันสืบไป