CECC วันที่ 11 ส.ค. 63
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในฟิลิปปินส์ยังคงรุนแรงขึ้นทุกขณะ นับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ประกอบกับนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 เป็นต้นมา ยอดผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จำนวน 32 คน ในจำนวนนี้ มี 20 คนที่เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงสูงมาก
เพื่อสร้างหลักประกันด้านความมั่นคงในการป้องกันโรคระบาดและสุขภาพของประชาชนในไต้หวัน นับตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ ต้องให้ความร่วมมือกับมาตรการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด – 19 ดังต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
1. ประชาชนไต้หวันและชาวต่างชาติบางส่วนที่ถือบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) วีซ่าพำนักอาศัยระยะยาว แรงงานต่างชาติ นักศึกษาต่างชาติ รวมถึงเจ้าหน้าที่การทูต เป็นต้น ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด - 19 ณ ท่าอากาศยาน ไม่ว่าผู้นั้นจะมีอาการต้องสงสัยหรือไม่ก็ตาม
2. ชาวต่างชาติที่ไม่มีบัตรถิ่นที่อยู่หรือวีซ่าพำนักอาศัย ต้องแนบใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทาง 3 วัน จึงจะอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง เปลี่ยนเครื่อง หรือเดินทางเข้าไต้หวัน
3. ผู้ที่เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ ต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อสังเกตอาการที่สถานกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือบัตรถิ่นที่อยู่และวีซ่าพำนักอาศัย ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง โดยค่าใช้จ่ายในการกักตัวอยู่ที่คืนละ 1,500 เหรียญไต้หวัน สำหรับประชาชนไต้หวันหรือชาวต่างชาติที่ถือบัตรถิ่นที่อยู่และวีซ่าพำนักอาศัย รัฐบาลไต้หวันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัวให้เต็มจำนวน
CECC ระบุว่า ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยยืนยันในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 3,500 ราย ครองสัดส่วนร้อยละ 60 ของประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ขณะนี้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 126,885 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์