ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สำนักงานตัวแทนไต้หวันในไทยร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 109 ปีแห่งวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
2020-10-14
New Southbound Policy。นายหลี่อิ้งหยวนและแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชา ถ่ายภาพร่วมกันในอาคารสำนักงาน TECO (ภาพจาก TECO)
นายหลี่อิ้งหยวนและแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชา ถ่ายภาพร่วมกันในอาคารสำนักงาน TECO (ภาพจาก TECO)

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันในไทยกล่าวชื่นชมนโยบายการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันและไทย ว่าล้วนแต่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่น คุณภาพชีวิตและความเสียหายในทรัพย์สินของประชาชนระหว่างสองประเทศได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

♦ การที่ไต้หวันสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติอย่างเฉิดฉายนั้น เป็นผลอันเนื่องมาจากการแผ่กิ่งก้านสาขาไปยังนานาประเทศทั่วโลกของชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งเป็นแรงหนุนที่ดีของประเทศชาติ

♦ สืบเนื่องมาจากการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้ปริมาณการผลิตหน้ากากอนามัยของไต้หวันก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 2 ของโลก

♦ ตราบจนปัจจุบัน ไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยที่ผลิตในไต้หวัน (MIT) ให้กับ 80 กว่าประเทศทั่วโลก รวมเป็นจำนวนมากกว่า 51 ล้านชิ้นแล้ว โดยในจำนวนนี้ ไต้หวันได้บริจาคให้กับทุกแวดวงในไทยรวมเป็นจำนวน 1.2 ล้านชิ้น
-------------------------------------------

TECO วันที่ 12 ต.ค. 63

 

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (TECO) ได้จัด “งานเลี้ยงน้ำชาเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 109 ปีแห่งวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)” ณ อาคารสำนักงานฯ โดยมีนายหลี่อิ้งหยวน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศไทยทำหน้าที่เป็นประธาน โดยภายในงานครั้งนี้ มีนักการเมืองไทย ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรสื่อมวลชน กลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลในไทย และนักธุรกิจไต้หวันในไทย เข้าร่วมเป็นจำนวน 150 กว่าคน

 

นายหลี่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า เพื่อขานรับกฎระเบียบว่าด้วยการป้องกันโรคระบาดที่กำหนดโดยรัฐบาลไทย ในปีนี้ TECO ได้ลดขนาดพิธีเฉลิมฉลองฯ ลง โดยคาดหวังที่จะร่วมแบ่งปันความปลื้มปิติเนื่องในวาระครบรอบ 109 ปีวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมกับกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเลในไทย ก่อนอื่นใด นายหลี่ฯ ได้กล่าวชื่นชมนโยบายการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันและไทย ว่าล้วนแต่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่น คุณภาพชีวิตและความเสียหายในทรัพย์สินของประชาชนระหว่างสองประเทศได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในช่วงเวลาอันคับขันเช่นนี้ การที่ตนได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้เดินทางมาทำหน้าที่เป็นผู้แทนรัฐบาลไต้หวันในไทย นับเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมด้วยความหมายพิเศษยิ่ง

 

นายหลี่ฯ ระบุว่า ในปัจจุบันมีนักธุรกิจไต้หวันที่มีฐานธุรกิจในไทยกว่า 5,000 บริษัท ประมาน 1.5 แสนคน โดยยอดการลงทุนของนักธุรกิจไต้หวันในไทยนับว่ามีมูลค่าสูงมาก ซึ่งมีส่วนช่วยในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง การที่ไต้หวันสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติอย่างเฉิดฉายนั้น เป็นผลอันเนื่องมาจากการแผ่กิ่งก้านสาขาไปยังนานาประเทศทั่วโลกของชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งเป็นแรงหนุนที่ดีของประเทศชาติ หลังจากนี้ต่อไป นายหลี่ฯ คาดหวังที่จะประสานความร่วมมือกับชาวจีนโพ้นทะเล ร่วมแสวงหาช่องทางการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – ไทยต่อไปในยุคหลังโควิด - 19

 

นายหลี่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า บนเส้นทางแห่งการสกัดกั้นโรคระบาด ไต้หวันได้ตระหนักถึงการป้องกันโรคระบาดที่ต้องร่วมผนึกกำลังกับประชาคมโลก สืบเนื่องมาจากการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้ปริมาณการผลิตหน้ากากอนามัยของไต้หวันก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 2 ของโลก ตราบจนปัจจุบัน ไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยที่ผลิตในไต้หวัน (MIT) ให้กับ 80 กว่าประเทศทั่วโลก รวมเป็นจำนวนมากกว่า 51 ล้านชิ้นแล้ว โดยในจำนวนนี้ ไต้หวันได้บริจาคให้กับทุกแวดวงในไทยรวมเป็นจำนวน 1.2 ล้านชิ้น นอกจากนี้ นายหลี่ฯ ยังได้กล่าวขอบคุณบรรดาชาวจีนโพ้นทะเลในไทยสำหรับน้ำใจและความสามัคคี ที่ตราบจนปัจจุบันได้ร่วมบริจาคเวชภัณฑ์การป้องกันโรคระบาดให้กับทุกแวดวงของไทย รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะเป็นการดำเนินการตามปณิธานที่ว่า “ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย” (Taiwan can help, and Taiwan is helping!) แล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างไต้หวัน – ไทยในเชิงลึกอีกด้วย