สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ปธน.ไช่ฯ รู้สึกชื่นชมต่อสปิริตของชาวไต้หวันที่ร่วมส่งน้ำใจไปถึงมือผู้ประสบภัยพิบัติในเนปาลอย่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ และเนื่องมาจากการผนึกกำลังของทุกภาคส่วน ทำให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวันอีกครั้ง.
♦ การที่เนปาลเป็นประเทศที่มีระยะทางห่างไกลจากไต้หวัน และไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ ระหว่างผู้ประสบภัยชาวเนปาลกับชาวไต้หวันเลย มิได้ทำให้พวกเราเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ “ธารน้ำใจของพวกเราชาวไต้หวันไร้พรมแดน น้ำใจของไต้หวันพร้อมส่งมอบให้กับบรรดาผู้ที่ลำบากและต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”
♦ โครงการบูรณะฟื้นฟูหลังภัยพิบัติในเนปาล เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ในระหว่างการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) พวกเราได้แสดงให้เห็นถึงปณิธานที่ว่า “ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย”
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 12 ต.ค. 63
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมงานแถลงข่าว “งานแสดงผลสัมฤทธิ์ด้านการฟื้นฟูบูรณะหลังภัยพิบัติในเนปาล” โดยรองปธน.ไล่ฯ ได้กล่าวชื่นชมน้ำใจของ “สมาคมพัฒนาด้านการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาคมโลกของไต้หวัน” (Taiwan AID) ที่ได้ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวันได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
รองปธนไล่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ตนดีใจมากที่ได้รับหน้าที่เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในการเดินทางมาเข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “งานแสดงผลสัมฤทธิ์ด้านการฟื้นฟูบูรณะหลังภัยพิบัติในเนปาล” พร้อมทั้งส่งผ่านความขอบคุณด้วยใจจริงของปธน.ไช่ฯ สู่ทุกภาคส่วน โดยระบุว่าปธน.ไช่ฯ รู้สึกชื่นชมต่อสปิริตของชาวไต้หวันที่ร่วมส่งน้ำใจไปถึงมือผู้ประสบภัยพิบัติในเนปาลอย่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ และเนื่องมาจากการผนึกกำลังของทุกภาคส่วน ทำให้ประชาคมโลกมองเห็นไต้หวันอีกครั้ง
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ในปี 2015 เนปาลเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขนาด 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ โดยจากเหตุภัยพิบัติในครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 10,000 ราย กว่า 3.5 ล้านครัวเรือนไร้ที่อยู่อาศัย ภาพความสูญเสียยับเยินในครั้งนั้นได้สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับผู้ประสบภัยและผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางมาเยี่ยมชมผลสัมฤทธิ์ในครั้งนี้ ได้สร้างความตื้นตันใจให้แก่ท่านเป็นอย่างมาก การที่เนปาลเป็นประเทศที่มีระยะทางห่างไกลจากไต้หวัน และไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ ระหว่างผู้ประสบภัยชาวเนปาลกับชาวไต้หวันเลย มิได้ทำให้พวกเราเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ “ธารน้ำใจของพวกเราชาวไต้หวันไร้พรมแดน น้ำใจของไต้หวันพร้อมส่งมอบให้กับบรรดาผู้ที่ลำบากและต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”
รองปธน.ไล่ฯ แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศที่เปี่ยมล้นด้วยน้ำใจจึงจะสามารถได้รับความเคารพจากประชาคมโลก
รองปธน.ไล่ฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า ประเทศในประชาคมโลกที่มีศักยภาพและมีการพัฒนาที่รุดหน้า ที่พร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่กำลังเผชิญหน้ากับความลำบาก เป็นเรื่องที่เปี่ยมด้วยความหมายที่พิเศษยิ่ง
รองปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า จากการบรรยายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าโครงการบูรณะฟื้นฟูหลังภัยพิบัติในเนปาล เป็นบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ในระหว่างการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) พวกเราได้แสดงให้เห็นถึงปณิธานที่ว่า “ไต้หวันช่วยได้ และไต้หวันกำลังช่วย” (Taiwan can help, and Taiwan is helping!) โดยในครั้งนี้ หน่วยงานรัฐบาลได้ประสานความร่วมมือกับองค์การนอกภาครัฐ (NGO) ในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่นำทัพโดย NGO ซึ่งเปี่ยมด้วยความหมายที่พิเศษยิ่ง
ท้ายนี้ รองปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความคาดหวังต่อสาธารณชนว่า “ก้าวต่อไปข้างหน้า ก้าวต่อไปด้วยความมั่นใจ ช่วยเหลือประเทศชาติของเรา และให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีความต้องการ”