สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ โรงเรียนนานาชาติไทย-จีน และโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสองสถาบัน
♦ การจัดตั้งสถานศึกษาเป็นภารกิจสำคัญในการบ่มเพาะบุคลากรที่ต้องใช้เวลานับร้อยปี ทั้งยังเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศชาติอีกด้วย จากการที่ทั้งสองสถาบันฯ ต่างยึดมั่นในเป้าหมายเดียวกัน โดยมีแผนการที่จะเชื่อมสัมพันธ์เป็นโรงเรียนพี่น้อง ผ่านการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในครั้งนี้
♦ ขณะนี้ รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาและประเมินการนำเทคโนโลยีของไต้หวันมาประยุกต์ใช้ ในนโยบายว่าด้วยการเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
♦ ภายในปี 2035 ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวันจะเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า และภายในปี 2040 ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวันจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แน่นอนว่า ในปัจจุบันนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมสำหรับการใช้งานโดยสมบูรณ์แล้ว
-------------------------------------------
TECO วันที่ 27 ต.ค. 63
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. โรงเรียนนานาชาติไทย-จีน (Thai-Chinese International School, TCIS) ที่ทำหน้าที่บ่มเพาะนักเรียนชาวจีนโพ้นทะเลในไทย และโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา (Praksa Withedsuksa School, PWS) จังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสองสถาบัน โดยนายหลี่อิ้งหยวน ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (TECO) และบรรดาผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลในไทย ต่างเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
นายจางเหวยปิน ผู้อำนวยการ TCIS และดร. ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการและผู้อำนวยการโรงเรียน PWS กล่าวขณะปราศรัยว่า การจัดตั้งสถานศึกษาเป็นภารกิจสำคัญในการบ่มเพาะบุคลากรที่ต้องใช้เวลานับร้อยปี ทั้งยังเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศชาติอีกด้วย จากการที่ทั้งสองสถาบันฯ ต่างยึดมั่นในเป้าหมายเดียวกัน โดยมีแผนการที่จะเชื่อมสัมพันธ์เป็นโรงเรียนพี่น้อง ผ่านการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในครั้งนี้
หลังจากนั้น นายหลี่ฯ ได้เข้าร่วม “กิจกรรมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองฝ่ายใน ต. แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ. สมุทรปราการ” โดยมีดร. ยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส. สมุทรปราการ นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทย นายเมธากุล สุวรรณบุตร รองโฆษกระทรวงอุตสาหกรรม นายมาชัย ไพศาลธนสมบัติ ปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา นายจางเหวินห้วน ประธานชมรมตำรวจโรงงานสากลในประเทศไทย นางกัวซิ่วหมิ่น ประธานสมาคมการค้าไทย – ไต้หวัน (TTBA) และผู้นำในแวดวงธุรกิจ ต่างเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
นายมาชัย กล่าวว่า แม้ว่าตำบลแพรกษาจะมีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่กลับเป็นฐานการผลิตที่สำคัญทางภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดสมุทรปราการ โดยธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ก็ได้เลือกที่จะจัดตั้งสถานประกอบการในพื้นที่แห่งนี้ สำหรับเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ มีสถานประกอบการกว่าร้อยละ 40 ที่มาจากการลงทุนของผู้ประกอบการชาวไต้หวัน คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต TECO และนักธุรกิจไต้หวันจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่นี้ต่อไป นายกฤชนนท์ กล่าวเน้นย้ำว่า ขณะนี้ รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาและประเมินการนำเทคโนโลยีของไต้หวันมาประยุกต์ใช้ ในนโยบายว่าด้วยการเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
นอกจากนี้ นายหลี่ฯ ยังได้แบ่งปันประสบการณ์ในขณะที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีทบวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยกล่าวชี้แจงถึงนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของไต้หวันว่า ภายในปี 2035 ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวันจะเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า และภายในปี 2040 ทั่วทุกพื้นที่ในไต้หวันจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แน่นอนว่า ในปัจจุบันนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมสำหรับการใช้งานโดยสมบูรณ์แล้ว อาทิ ระบบของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Gogoro ได้ปรับรูปแบบมาใช้วิธีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนถ่ายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งแบตเตอรี่ประเภทนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถแจ้งเตือนปริมาณที่เหลือของแบตเตอรี่ให้กับผู้ใช้งานได้รับทราบ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับความสนใจจากฝรั่งเศสและอังกฤษเป็นอย่างมาก จึงเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรมของไทยไว้วางใจต่อการเลือกใช้เทคโนโลยีของไต้หวัน
ก่อนการปิดฉากกิจกรรม นายหลี่ฯ ได้กล่าวชื่นชมดร. ยงยุทธที่ได้สรรสร้างให้ตำบลแพรกษาเป็นพื้นที่แห่งการศึกษาและเศรษฐกิจที่เปี่ยมด้วยความเจริญรุ่งเรืองและเปี่ยมไปด้วยความสุข โดยในอนาคต นายหลี่ฯ จะผลักดันความร่วมมือแบบทวิภาคีกับดร. ยงยุทธและรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป พร้อมประสานความร่วมมือในการเอื้อประโยชน์แบบพหุภาคีร่วมกับผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลและนักธุรกิจไต้หวันในไทยต่อไป