ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว นสพ. Aftenposten
2020-11-25
New Southbound Policy。นายอู๋เจาเซี่ย (ขวา) รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Kristoffer Ronneberg ผู้สื่อข่าวนสพ. Aftenposten ของนอร์เวย์ (ภาพจาก MOFA)
นายอู๋เจาเซี่ย (ขวา) รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Kristoffer Ronneberg ผู้สื่อข่าวนสพ. Aftenposten ของนอร์เวย์ (ภาพจาก MOFA)

สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ นายอู๋เจาเซี่ย รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Kristoffer Ronneberg ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Aftenposten โดยรมว.อู๋ฯ ได้ร่วมหารือเชิงลึกในประเด็นต่างๆ กับผู้สื่อข่าว อาทิ การระบุสัญชาติในบัตรถิ่นที่อยู่ของนักศึกษาชาวไต้หวันในนอร์เวย์ที่ไม่เหมาะสม การที่ไต้หวันไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐอเมริกา สถานการณ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เป็นต้น

♦ การกีดกันไต้หวันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม WHA เปรียบเสมือนการริดลอนสิทธิมนุษยชนในด้านสุขภาพและสิทธิการได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงทีของประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคน

♦ รมว.อู๋ฯ ชี้ว่าไต้หวันมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่อยู่แนวหน้าในการเผชิญหน้ากับอำนาจเผด็จการ รมว.อู๋ฯ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าประชาธิปไตยจะได้รับชัยชนะในที่สุด
-------------------------------------------
MOFAวันที่ 24 พ.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Kristoffer Ronneberg ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Aftenposten ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แนวหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนอร์เวย์ โดยบทสัมภาษณ์จะทยอยนำออกเผยแพร่ผ่านพ็อดคาสท์ (Podcast) และตีพิมพ์ลงใน นสพ. Aftenposten ฉบับวันที่ 20 พ.ย. และ 23 พ.ย. ตามลำดับ โดยในระหว่างการสัมภาษณ์ รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมหารือเชิงลึกในประเด็นต่างๆ กับผู้สื่อข่าว อาทิ การระบุสัญชาติในบัตรถิ่นที่อยู่ของนักศึกษาชาวไต้หวันในนอร์เวย์ที่ไม่เหมาะสม การที่ไต้หวันไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน “การประชุมสมัชชาอนามัยโลก” (WHA) ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐอเมริกา สถานการณ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน เป็นต้น

 

สำหรับช่องสัญชาติที่ปรากฎบนบัตรถิ่นที่อยู่ของนักศึกษาชาวไต้หวันที่พำนักอยู่ในนอร์เวย์ ได้ถูกระบุว่า “มณฑลหนึ่งในจีน” ก่อนหน้านี้มีการยื่นฎีกาต่อศาลสูงสุดของนอร์เวย์แต่ศาลไม่รับฎีกา ต่อกรณีนี้ รมว.อู๋ฯ ชี้แจงว่า ประชาชนชาวไต้หวันต่างรู้สึกต่อต้านกับการถูกระบุด้วยข้อความดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการระบุที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง โดยรมว.อู๋ฯ ได้อ้างอิง “ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” (Universal Declaration of Human Rights) ของสหประชาชาติ (UN) มาตราที่ 15 ที่ระบุไว้ว่า “มวลมนุษยชาติทุกคนมีสิทธิในการถือครองสัญชาติ โดยสิทธินี้ไม่สามารถถูกริดลอนโดยผู้ใดได้ตามอำเภอใจ” นอกจากนี้ ยังได้กล่าวอ้างอิงถึงมาตรา 6 ในอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (European Convention on Human Rights) ที่ระบุไว้ว่า “ทุกคนสมควรได้รับสิทธิในการพิจารณาในคดีอย่างเป็นธรรม” (Right to fair trial) ในระหว่างการหารือในประเด็นดังกล่าวด้วย

 

รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันมิได้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน การตัดสินของศาลฎีกานอร์เวย์เป็นการตัดสินที่ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้ถูกกระทำ ทำให้สิทธิของนักศึกษาชาวไต้หวันไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างที่ควรจะเป็น รมว.อู๋ฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนอร์เวย์ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาข้างต้นโดยเร็ว โดยกต.ไต้หวันจะให้การสนับสนุนนักศึกษาชาวไต้หวันอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบการช่วยเหลือที่จำเป็นต่อไป

 

ต่อกรณีที่ไต้หวันยังคงได้รับการถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม WHA ที่ในปีนี้เลื่อนมาจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับในระหว่างที่ประเทศพันธมิตรร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันนั้น ถูกเจ้าหน้าที่จีนขัดจังหวะหลายครั้ง รมว.อู๋ฯ ได้แสดงความเสียใจ พร้อมกล่าวว่าการกีดกันไต้หวันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม WHA เปรียบเสมือนการริดลอนสิทธิมนุษยชนในด้านสุขภาพและสิทธิการได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงทีของประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคน ทางส่วนของไต้หวันก็ไม่สามารถสร้างคุณประโยชน์ในการร่วมแบ่งปันประสบการณ์และทรัพยากรให้แก่ประชาคมโลกได้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย “สุขภาพดีถ้วนหน้า” (Health for All) ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ตราไว้ในกฎบัตรของ “องค์การอนามัยโลก” (WHO)

 

ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันค่อนข้างตึงเครียด รมว.อู๋ฯ ชี้ว่าไต้หวันมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่อยู่แนวหน้าในการเผชิญหน้ากับอำนาจเผด็จการ ดังเช่นเดวิดต่อกรกับโกไลแอธ (David & Goliath) ซึ่งรมว.อู๋ฯ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าประชาธิปไตยจะได้รับชัยชนะในที่สุด นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังระบุว่า เมื่อช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าประชาคมโลกต่างเห็นข่าวที่เกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงของฮ่องกงได้ริดลอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งรวมไปถึง สิทธิในการให้บริการแก่ภาคประชาชนของเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หลักการ “1 ประเทศ 2 ระบบ” ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้

 

นสพ. Aftenposten ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1860 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองออสโล นับจนปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก และได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนของนอร์เวย์