สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ไต้หวันประยุกต์ใช้ประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดที่สั่งสมมาจากเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต อีกทั้งประยุกต์ใช้มาตรการป้องกันโรคระบาดแบบล่วงหน้า พร้อมทั้งประยุกต์ใช้แนวทางการตอบสนองและรับมือในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้เราสามารถรอดพ้นจากภัยคุกคามโรคระบาดได้ แม้จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่อันตรายมากที่สุดก็ตาม

♦ ภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ยังได้สำแดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไต้หวัน

♦ ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน มาตรการแบบล่วงหน้า เทคโนโลยีด้านการป้องกันโรคระบาด รวมถึงทีมชาติไต้หวันและความสามัคคีของภาคประชาชน ต่างถือเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญของไต้หวัน ในการเอาชนะอุปสรรคโรคระบาดในครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น
-------------------------------------------
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 12 ธ.ค. 63

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “งานแถลงข่าวเปิดฉายภาพยนตร์สารคดีที่บันทึกเรื่องราวว่าด้วยการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันในรอบปฐมทัศน์” ที่จัดทำโดยรายการดิสคัฟเวอรี่ (Discovery) พร้อมนี้ปธน.ไช่ฯ ยังได้กล่าวปราศรัย โดยระบุว่า ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทั่วโลกจะสามารถประจักษ์เห็นถึงความมุ่งมั่นและคุณูปการด้านสิทธิมนุษยชนทางการแพทย์ รวมถึงคุณประโยชน์ต่างๆ ที่ไต้หวันร่วมอุทิศให้กับประชาคมโลก ภายใต้หลักการ “Taiwan can help, and Taiwan is helping” ผ่านภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ อันจะนำมาซึ่งพลังเสียงสนับสนุนที่มากขึ้นหลังจากที่ทั่วโลกได้รับรู้เรื่องราวอย่างลึกซึ้ง โดยปธน.ไช่ฯ ได้เน้นย้ำว่า การรับมือกับโรคระบาดเปรียบเสมือนการสู้รบในสงคราม ไม่มีวันใดที่สามารถปล่อยปละละเลยได้ ทุกคนต้องประสานความร่วมมือในการสู้ต่อไป

ในระหว่างการกล่าวปราศรัย ปธน.ไช่ฯ กล่าวแสดงความขอบคุณต่อทีมผู้ถ่ายทำของสถานีโทรทัศน์ Sanlih E-Television และรายการดิสคัฟเวอรี่ ที่ได้บันทึกเรื่องราวว่าด้วยการป้องกันโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพของไต้หวัน นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตราบจนปัจจุบัน ปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า นี่เป็นภาพบันทึกที่มีความสำคัญและล้ำค่ามากในสายตาของประชาชนชาวไต้หวัน ซึ่งสารคดีชุดนี้มิได้เป็นเพียงเฉพาะสารคดีทั่วไป หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของไต้หวันอีกด้วย

ปธน.ไช่ฯ ชี้แจงว่า พวกเราได้ประยุกต์ใช้ประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดที่สั่งสมมาจากเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต อีกทั้งประยุกต์ใช้มาตรการป้องกันโรคระบาดแบบล่วงหน้า พร้อมทั้งประยุกต์ใช้แนวทางการตอบสนองและรับมือในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้เราสามารถรอดพ้นจากภัยคุกคามโรคระบาดได้ แม้จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่อันตรายมากที่สุดก็ตาม นี่เป็นความสำเร็จที่ได้มาไม่ง่าย นับเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของประชาชนชาวไต้หวัน

ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า เนื่องด้วยไต้หวันเพรียบพร้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคระบาดในทุกแขนงสาขา โดยทุกภาคส่วนต่างร่วมสละเวลาความสุขส่วนตนในการปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างแข็งขัน มุ่งมั่นดำเนินภารกิจการป้องกันโรคระบาดอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชน จึงบังเกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ดังเช่นในปัจจุบัน โดยปธน.ไช่ฯ ได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดต่อบรรดาผู้เชี่ยวชาญในทุกแขนง รวมถึงสมาชิกทีมชาติไต้หวันที่ร่วมทุ่มเทในภารกิจการป้องกันโรคระบาดอย่างเต็มกำลัง

นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ยังได้สำแดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไต้หวัน โดยเฉพาะภาคประชาสังคมของไต้หวันต่างได้ประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ ในการร่วมเสริมสร้างกลไกรูปแบบใหม่กับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระบาดให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า การที่ประสบการณ์การป้องกันโรคระบาด “รูปแบบไต้หวัน” ได้รับการมองเห็นและได้รับเสียงชื่นชมจากประชาคมโลกอย่างแพร่หลาย เป็นผลอันเนื่องมาจากแนวทางปฏิบัติที่มีความเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน มาตรการแบบล่วงหน้า เทคโนโลยีด้านการป้องกันโรคระบาด รวมถึงทีมชาติไต้หวันและความสามัคคีของภาคประชาชน ต่างถือเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญของไต้หวัน ในการเอาชนะอุปสรรคโรคระบาดในครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น

ท้ายนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ชี้แจงว่า ภาพยนต์สารคดีชุดนี้จะทำการพากย์เสียงด้วยภาษาอังกฤษ และจัดทำคำบรรยายเป็นภาษาจีน เพื่อเผยแพร่ผ่านทุกช่องทางการรับชมในระดับนานาชาติ ปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จากการเผยแพร่ภาพยนตร์สารคดีในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างให้มิตรสหายชาวต่างชาติของไต้หวันเกิดความเข้าใจในความมุ่งมั่นพยายามและคุณูปการด้านการป้องกันโรคระบาดและสาธารณสุขที่ไต้หวันร่วมอุทิศให้กับประชาคมโลกได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น