สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ องค์การ International Hospital Federation (IHF) ได้ประกาศรายชื่อสถานพยาบาลที่ได้สร้างคุณประโยชน์ด้านการป้องกันโรคระบาดรวม 103 แห่งทั่วโลก พร้อมนี้ยังได้เผยแพร่รายงานพิเศษว่าด้วยกรณีศึกษาด้านการป้องกันโรคระบาดที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

♦ กลไกที่รวบรวมข้อมูลประวัติการเดินทาง (Travel) ประเภทอาชีพ (Occupation) ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (Contact) หรือประวัติการรวมกลุ่มกับกลุ่มชน (Cluster) หรือที่เรียกโดยรวมว่า TOCC ที่จัดตั้งขึ้นในระบบ MediCloud โดย NHI ได้รับคัดเลือกให้เป็น1 ใน 5 กรณีศึกษาที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในโลก

♦ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันได้เร่งบูรณาการข้อมูลเชิงนวัตกรรม ผนวกข้อมูลการเดินทางเข้า – ออกประเทศของสาธารณชน เข้าสู่ระบบ Medicloud พร้อมส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ป่วยให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์อย่างทันท่วงที
-------------------------------------------
NHI วันที่ 25 ธ.ค. 63

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน (NHI) แถลงว่า International Hospital Federation (IHF) หนึ่งในองค์การไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการให้ความสำคัญมากที่สุดในโลก และเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาพันธมิตรขององค์การอนามัยโลก (World Hospital Organization, WHO) ได้จัดกิจกรรมประกาศรางวัลเกียรติคุณให้กับหน่วยงานที่สร้างคุณประโยชน์ด้านการป้องกันโรคระบาดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยได้ประกาศรายชื่อสถานพยาบาลที่ได้สร้างคุณประโยชน์ด้านการป้องกันโรคระบาดรวม 103 แห่งทั่วโลก พร้อมนี้ยังได้เผยแพร่รายงานพิเศษว่าด้วยกรณีศึกษาด้านการป้องกันโรคระบาดที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ภายใต้หัวข้อ “การสร้างความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) : แนวทางการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โรคโควิด - 19”(Building the ‘New Normal’: Harnessing transformative practices from the COVID-19 pandemic) โดยเนื้อหาสาระสำคัญในรายงานข้างต้น ประกอบด้วย แผนยุทธศาสตร์การป้องกันโรคระบาดที่ควรค่าแก่การนำไปอ้างอิงประยุกต์ใช้ในทุกพื้นที่ทั่วโลก พร้อมรวบรวมเป็นกรณีศึกษา ซึ่งข้อมูลต่างๆ ได้ทำการคัดเลือกโดยคณะทำงานเฉพาะกิจ ในจำนวนนี้ กลไกที่รวบรวมข้อมูลประวัติการเดินทาง (Travel) ประเภทอาชีพ (Occupation) ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (Contact) หรือประวัติการรวมกลุ่มกับกลุ่มชน (Cluster) หรือที่เรียกโดยรวมว่า TOCC ที่จัดตั้งขึ้นในระบบ MediCloud โดย NHI ได้รับคัดเลือกให้เป็น1 ใน 5 กรณีศึกษาที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในโลก

การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ได้สร้างวิกฤตให้กับระบบทางการแพทย์ในทุกประเทศทั่วโลก ส่งผลให้สถานพยาบาลทุกหนแห่งจำเป็นต้องประยุกต์ใช้มาตรการเชิงนวัตกรรม เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การแพร่ระบาด ภายใต้สภาวะที่เต็มไปด้วยปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนเช่นนี้ นับเป็นการเร่งให้เกิดการปฏิรูปด้านการบริการทางการแพทย์ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้กำลังใจแก่สถานพยาบาลทั่วโลกที่ร่วมแสวงหาแนวทางการรับมือเชิงนวัตกรรม พร้อมทั้งเร่งปฏิรูปการบริการทางการแพทย์ในเชิงบวก ตลอดจนร่วมเรียนรู้และประสานความร่วมมือระหว่างกัน ภายใต้สถานการณ์โควิด - 19 IHF ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงได้จัดกิจกรรมประกาศรางวัลในครั้งนี้ขึ้น ภายใต้หัวข้อ Beyond COVID – 19 โดยศาตราจารย์ชิวสูถี รองประธานคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมการศึกษาด้านสาธารณสุขและสุขภาพนานาชาติ (IUHPE) ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะทำงานเฉพาะกิจ ได้ยื่นเสนอคำแนะนำต่อนายหลี่ปั๋วจาง ผู้อำนวยการ NHI ว่า พวกเราควรที่จะนำเสนอแนวทางปฏิบัติของไต้หวันในการรับมือกับโรคระบาดในครั้งนี้ให้กับ IHF นำไปใช้ในการอ้างอิงต่อไป

ผอ.หลี่ฯ กล่าวว่า ในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 ที่ลุกลามไปทั่วโลกตลอดทั้งปี 2020 ทาง NHI ได้สำแดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการดำเนินการในภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เสริมสร้างระบบ Medicloud ให้เกิดความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการวิจัยและพัฒนากลไก TOCC เพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลของประชาชนที่เข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างเป็นระบบ จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าช่วย เป็นผลทำให้ไต้หวันประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นโรคระบาดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการยอมรับโดย IHF ในครั้งนี้ นับเป็นการส่งเสริมให้ผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ได้รับการมองเห็นจากประชาคมโลกได้อย่างเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ก้าวขึ้นสู่ต้นแบบใหม่แห่งการป้องกันโรคระบาดทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการสร้างคุณประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาคมโลก ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยในการผลักดันการเข้าร่วมใน WHO ของไต้หวันต่อไปในอนาคตอีกด้วย

สาระสำคัญในรายงานข้างต้นยังระบุว่า ระบบทางการแพทย์ของสถานพยาบาลหลายแห่งมักประสบกับอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบข้ามหน่วยงานอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิการเข้ารับการรักษาของผู้ป่วย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันได้เร่งบูรณาการข้อมูลเชิงนวัตกรรม ผนวกข้อมูลการเดินทางเข้า – ออกประเทศของสาธารณชน เข้าสู่ระบบ Medicloud พร้อมส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ป่วยให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์อย่างทันท่วงที อาทิ ประวัติการเดินทางและประเภทอาชีพของผู้ป่วย ซึ่งมีส่วนช่วยในการวินิจฉัยทางการแพทย์และการควบคุมการเข้า - ออกของผู้ป่วยภายในสถานพยาบาล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยยืนยันและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด – 19 ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด

NHI แถลงว่า ประสบการณ์อันล้ำค่าของระบบประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน โดยเฉพาะในด้านการจัดตั้งระบบข้อมูลทางการแพทย์ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ถือเป็นข้อได้เปรียบของไต้หวัน ที่สามารถร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนานาประเทศทั่วโลกต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อขานรับต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ตลอดจนเป็นการบรรลุเป้าหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage, UHC) ของ WHO ควบคู่ไปด้วย