ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ประธานาธิบดีให้การต้อนรับตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือในการยกระดับและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม
2021-03-10
New Southbound Policy。ประธานาธิบดีให้การต้อนรับตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือในการยกระดับและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ประธานาธิบดีให้การต้อนรับตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือในการยกระดับและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี  วันที่ 4 มี.ค. 64
 
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 มีนาคม ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับนายกสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งชาติสาธารณรัฐจีน ( NASME) ตัวแทนสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประจำเมืองต่างๆ และตัวแทนมูลนิธิห่วงใยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และจะส่งเสริมให้มีการผนึกกำลังกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ภาควิชาการและภาคการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยประคองให้ SMEs สามารถยกระดับและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม อีกทั้งจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการยกระดับเทคโนโลยีให้สูงขึ้น เพื่อให้กลุ่มธุรกิจก้าวไปสู่การจำหน่ายสินค้า และดำเนินธุรกิจผ่านระบบดิจิทัล ตลอดจนการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน
 
ปธน.กล่าวขณะปราศรัยว่า SMEs เป็นเสาหลักที่ค้ำจุนเศรษฐกิจไต้หวัน เรามี SMEs ในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ97 ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศ และจำนวนประชากรที่มีงานทำร้อยละ 80 ทำงานอยู่ใน SMEs ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า การดูแล SMEs ให้ดี ก็เปรียบเสมือนเป็นการดูแลไต้หวันทั้งประเทศให้ดีตามไปด้วย
 
ปธน.ระบุว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แม้เราต้องเผชิญกับวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ก็สามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเอาไว้ได้ ใบสั่งสินค้าจากต่างประเทศในเดือนม.ค.ปีนี้ เติบโตขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 11 แล้ว ดังนั้นคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มที่ดี และมีโอกาสที่จะสูงกว่าร้อยละ 4
 
ปธน.ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่ยุติลง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในต่างประเทศ ไต้หวันยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมากมายและใหญ่หลวง โดยเฉพาะ SMEs สำหรับแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมนั้น รัฐบาลจะส่งเสริมให้มีการผนึกกำลังกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ภาควิชาการและภาคการศึกษาวิจัย เพื่อช่วยประคองให้ SMEs สามารถยกระดับและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เราหวังว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการยกระดับเทคโนโลยีของ SMEs เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในรูปแบบดิจิทัล และการใช้พลังงานหมุนเวียน การประยุกต์ใช้ AI และการผลิตอัจฉริยะ เป็นต้น  ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มธุรกิจก้าวไปสู่การจำหน่ายสินค้า และดำเนินธุรกิจผ่านระบบดิจิทัล ตลอดจนการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน
 
ปธน.ยังกล่าวว่า ในการประกอบธุรกิจและการยกระดับ ตลอดจนการปรับโครงสร้างของ SMEs จะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตนได้สั่งการให้กระทรวงเศรษฐการเร่งศึกษาปัญหาและความท้าทายต่างๆ โดยไม่มีการจำกัดงบประมาณและทรัพยากรที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อวางแผนแนะแนวผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบและครบวงจร เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน SMEs ต่อไป