กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 10 มี.ค. 64
 
ไล่เจี้ยนซิ่น อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำของไต้หวัน และ พันเอก Kirk Gibbs ผู้บัญชาการกองทหารช่างภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมระดับผู้บัญชาการผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทรุดตัวของแผ่นดิน เล็งนำเทคโนโลยีการป้องกันแผ่นดินทรุดตัวของไต้หวันส่งเสริมให้กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย และประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน  ในการประชุมครั้งนี้ พันเอก Kirk Gibbs ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของกรมทรัพยากรน้ำของไต้หวัน ที่มีการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำและการต้านทานภัยแล้งที่ดี และแสดงความสนใจต่อมาตรการการป้องกันแผ่นดินทรุดตัวของพื้นที่ในเขตกรุงไทเปอย่างมาก
 
กรมทรัพยากรน้ำมีการติดต่อแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดกับกองทหารช่างของกองทัพสหรัฐฯ ในเรื่องของเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรน้ำ และจัดให้มีการเยี่ยมเยือนระหว่างสองฝ่าย ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา จนเกิดเป็นสัมพันธภาพที่ดีต่อกันอย่างแนบแน่น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ไม่สามารถเดินทางเยี่ยมเยือนระหว่างกันได้ ประกอบกับพิจารณาถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่ยังต้องดำเนินอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 10 มี.ค. ไต้หวันและสหรัฐฯ จึงร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างกัน ผ่านการประชุมออนไลน์เป็นครั้งแรก ดังนั้น เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประชุมแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การป้องกันอุทกภัยและการรับมือกับภัยแล้ง ตลอดจนการป้องกันแผ่นดินทรุดตัวและการป้องกันแนวชายฝั่ง ซึ่งกองทหารช่าง กองทัพบกของสหรัฐฯ ให้ความสนใจกับการทำฝนเทียม เครื่องตรวจวัดน้ำท่วม การปฏิบัติและบำรุงรักษาอุปกรณ์ป้องกันภัยพิบัติในชุมชนด้วยตนเองเป็นอย่างมาก โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันตลอดการประชุม  
 
ในการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงความท้าทายในเรื่องของภัยแล้งที่ไต้หวันกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยหวังอี้เฟิง รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วยชี้ว่า ภารกิจหลักของกรมทรัพยากรน้ำคือการทำให้คนไต้หวันไว้วางใจต่อสภาพแวดล้อมทางทรัพยากรน้ำที่ดี โดยในปัจจุบันได้มีผลักดันมาตรการต้านทานภัยแล้งต่างๆ เพื่อให้การจ่ายน้ำประปาเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ โดยในช่วงสุดท้ายของการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้เสนอแนวทางในอนาคต โดยคาดหวังว่า วิศวกรรุ่นใหม่ของทั้งสองฝ่ายจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ร่วมกันเผชิญกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต พร้อมชี้ว่าหากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง จะรีบดำเนินการให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝ่าย รวมทั้งกิจกรรมการเยี่ยมเยือนที่เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการอนุรักษ์น้ำที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ร่วมกัน