ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันขอต้อนรับการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดี Surangel Whipps Jr. แห่งสาธารณรัฐปาเลา
2021-03-18
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันขอต้อนรับการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดี Surangel Whipps Jr. แห่งสาธารณรัฐปาเลา (ภาพจาก CNA)
กต.ไต้หวันขอต้อนรับการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดี Surangel Whipps Jr. แห่งสาธารณรัฐปาเลา (ภาพจาก CNA)

กระทรวงการต่างประเทศ  วันที่ 17 มี.ค. 64
 
เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมด้วยนายเฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม และนายฉีเหวินจง ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันประกาศการเริ่มใช้มาตรการทราเวลบับเบิลไต้หวัน-ปาเลา (Taiwan-Palau Travel Bubble) โดยการใช้มาตรการนี้ทำให้ทั้งไต้หวันและปาเลาต่างกลายเป็นประเทศแรกที่มีการทำ Travel Bubble ระหว่างกัน  ซึ่งไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการป้องกันโรคของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างยิ่ง พร้อมทั้งเป็นการสื่อให้เห็นถึงการให้ความสำคัญและไว้วางใจระหว่างกันด้วย   
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ประธานาธิบดี Surangel Whipps Jr. จะโดยสารเครื่องบินเช่าเหมาลำเดินทางมาเยือนไต้หวันตามคำเชิญของกระทรวงการต่างประเทศ และจะเดินทางกลับปาเลาในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและปาเลาเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นการเดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดี Whipps  นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา และจะเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจะมีโอกาสได้ให้การต้อนรับผู้นำของต่างประเทศ หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปทั่วโลก
 
รมว.อู๋ฯ ย้ำเป็นกรณีพิเศษว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดี Whipps ได้เรียกร้องอย่างเต็มที่ให้มีการทำทราเวลบับเบิลระหว่างปาเลากับไต้หวัน โดยในช่วงเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งรมว.อู๋ฯ ทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน เดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี Whipps นั้น ผู้นำปาเลาได้กล่าวต่อสาธารณชนหลายครั้งว่า หวังจะได้มีโอกาสผลักดันการทำทราเวลบับเบิลกับไต้หวัน สำหรับการเดินทางเยือนไต้หวันของประธานาธิบดี Whipps ในครั้งนี้ จะมีการพบปะกับประธานาธิบดีไช่อิงเหวินด้วย เชื่อว่าการพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศ จะช่วยให้มิตรภาพและความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายมีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของปาเลาในยุคหลังโควิดด้วย