ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ มอบหมายให้รองปธน.ไล่ฯ ทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษนำคณะเดินทางไปเข้าร่วม “พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฮอนดูรัส”
2022-01-20
New Southbound Policy。ปธน.ไช่ฯ มอบหมายให้รองปธน.ไล่ฯ ทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษนำคณะเดินทางไปเข้าร่วม “พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฮอนดูรัส” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไช่ฯ มอบหมายให้รองปธน.ไล่ฯ ทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษนำคณะเดินทางไปเข้าร่วม “พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฮอนดูรัส” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 19 ม.ค. 65
 
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ H.E. Xiomara Castro ประธานาธิบดีคนใหม่ของสาธารณรัฐฮอนดูรัส ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ม.ค. ปี 2022 โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ม.ค.ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานแถลงข่าว โดยประกาศว่า ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้มอบหมายให้นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษและจัดตั้งคณะตัวแทนไต้หวันเพื่อเดินทางไปเข้าร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำคนใหม่ของฮอนดูรัส  โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รองปธน.ไล่ฯ และคณะทูตพิเศษจะบรรลุ “ภารกิจกระชับความสัมพันธ์เชิงลึก 3 ประการ”ที่ประกอบด้วย การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศพันธมิตรในเชิงลึก การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน และกระตุ้นให้ประเทศพันธมิตรส่งเสริมให้ไต้หวันที่เป็นประเทศประชาธิปไตย เข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ
 
ในระหว่างงานแถลงข่าว นายจางตุนหาน โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึง สาเหตุของการเดินทางเยือนฮอนดูรัส โดยระบุว่า เพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ม.ค. นี้
 
นายจางฯ เน้นย้ำว่า ปธน.ไช่ฯคาดหวังที่จะเห็นรองปธน.ไล่ฯ และคณะทูตพิเศษ บรรลุ “ภารกิจกระชับความสัมพันธ์เชิงลึก 3 ประการ” ประการแรก การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศพันธมิตรในเชิงลึก ตราบจนปัจจุบัน ไต้หวัน - ฮอนดูรัสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 80 ปีแล้ว หลายปีมานี้ ฮอนดูรัสได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างกระตือรือร้น อีกทั้งฮอนดูรัสยังเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไต้หวันในภูมิภาคอเมริกากลางอีกด้วย ปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเดินทางเยือนในครั้งนี้จะส่งผลให้ความสัมพันธ์อันดีที่สั่งสมมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ก้าวไปสู่การพัฒนาในอีกระดับ
 
ประการที่ 2 การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน  โดยในช่วงหลายปีมานี้ ไต้หวัน - ฮอนดูรัสได้ประสานความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด อาทิ เศรษฐกิจการค้า สาธารณสุข สวัสดิการทางสังคม โครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมสิทธิสตรี รวมถึงอุตสาหกรรมการเกษตรและการประมง เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง นับเป็นตลาดที่เปี่ยมด้วยโอกาสและศักยภาพในการพัฒนาขั้นสูง ปธน.ไช่ฯ คาดหวังว่า การเดินทางเยือนในครั้งนี้ จะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างกันในเชิงลึก เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันต่อไป ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของสาธารณชนทั้ง 2 ประเทศต่อไป
 
ประการที่ 3 กระตุ้นให้ประเทศพันธมิตรส่งเสริมให้ไต้หวันที่เป็นประเทศประชาธิปไตย เข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ การเดินทางเยือนของคณะทูตพิเศษในครั้งนี้ ถือเป็นการนำพาไต้หวันก้าวสู่ประชาคมโลก ปธน.ไช่ฯ ไม่เพียงแต่คาดหวังว่าในอนาคตทั้ง 2 ประเทศจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกระตุ้นการพัฒนาซึ่งกันและกัน พร้อมคาดหวังว่า ไต้หวัน – ฮอนดูรัสและประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จะสามารถประสานความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณประโยชน์ที่สำคัญในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยไต้หวันจะแสดงให้ประชาคมโลกประจักษ์ว่า ไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่มีความสามารถและความรับผิดชอบ ที่ประชาคมโลกสามารถไว้วางใจได้
 
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทั่วโลกยังคงลุกลามอย่างรุนแรง คณะทูตพิเศษในครั้งนี้ได้เตรียมมาตรการด้านการป้องกันโรคระบาดที่เกี่ยวข้องอย่างรัดกุม โดยได้รับคำชี้แนะจากศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ของไต้หวัน
 
พวกเราคาดหวังว่าคณะทูตพิเศษในครั้งนี้ จะสามารถบรรลุเป้าหมายในภารกิจที่ปธน.ไช่ฯ มอบหมายให้ด้วยความราบรื่น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างไต้หวัน – ฮอนดูรัสให้เกิดความแข็งแกร่ง ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความร่วมมือเชิงลึกในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนผลักดันให้ไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตย ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศต่อไป
 
นอกจากนี้ นายอวี๋ต้าเหลย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยังได้ร่วมชี้แจงถึง กำหนดการเดินทางเยือนฮอนดูรัสในครั้งนี้ โดยคณะตัวแทนเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนในช่วงเช้าของวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งจะเดินทางถึงฮอนดูรัสในวันที่ 26 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น และเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ  H.E. Xiomara Castro ประธานาธิบดีคนใหม่ของสาธารณรัฐฮอนดูรัสในวันที่ 27 ม.ค. และเดินทางออกจากฮอนดูรัสในช่วงเช้าของวันที่ 28 ม.ค. ซึ่งจะกลับถึงไต้หวันในช่วงค่ำของวันที่ 30 ม.ค. ตามเวลาในไต้หวัน รวมระยะเวลาการเดินทางทั้งหมด 6 วัน 5 คืน
 
รมช.อวี๋ฯ กล่าวว่า การผลักดันการทูตระหว่างผู้นำประเทศ และการกระชับไมตรีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลของประเทศพันธมิตร ถือเป็นภารกิจการทูตที่สำคัญของรัฐบาลไต้หวัน และเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึกกับประเทศพันธมิตร ตามหลักการ “การทูตที่เป็นรูปธรรม” และนี่นับเป็นครั้งแรกที่รองปธน.ไล่ฯ เดินทางเยือนประเทศพันธมิตร หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งรองปธน.ไต้หวันเป็นต้นมา