ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลและเครื่องมือกลนานาชาติไทเป 2022 (TIMTOS x TMTS 2022) พร้อมหวังว่า ภาครัฐและอุตสาหกรรมจะร่วมกันนำไต้หวันก้าวสู่การเปิดศักราชใหม่แห่งเครื่องจักรกลอัจฉริยะต่อไป
2022-02-22
New Southbound Policy。ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลและเครื่องมือกลนานาชาติไทเป 2022 (TIMTOS x TMTS 2022) พร้อมหวังว่า ภาครัฐและอุตสาหกรรมจะร่วมกันนำไต้หวันก้าวสู่การเปิดศักราชใหม่แห่งเครื่องจักรกลอัจฉริยะต่อไป (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไช่ฯ เข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลและเครื่องมือกลนานาชาติไทเป 2022 (TIMTOS x TMTS 2022) พร้อมหวังว่า ภาครัฐและอุตสาหกรรมจะร่วมกันนำไต้หวันก้าวสู่การเปิดศักราชใหม่แห่งเครื่องจักรกลอัจฉริยะต่อไป (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 21 ก.พ. 65
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเปิดงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลและเครื่องมือกลนานาชาติไทเป ประจำปี 2022 (TIMTOS x TMTS 2022) รูปแบบไฮบริด” โดยในปีนี้จัดขึ้นทั้งการจัดแสดงทั้งในสถานที่จริงและแบบออนไลน์ โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 ของหลายๆ ประเทศ ไต้หวันจึงจำเป็นต้องมุ่งไปสู่การบูรณาการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลที่แม่นยำ รวมไปจนถึงการตรวจสอบระบบการผลิตอัจฉริยะ ด้วยการจัดตั้งทีมชาติไต้หวัน เพื่อขยายตลาดต่างประเทศ ตลอดจนส่งเสริมให้ไต้หวันก้าวสู่การเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดในโซลูชันด้านการแก้ไขปัญหาการผลิตรูปแบบอัจฉริยะในภาพรวม โดยปธน.ไช่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม เพื่อนำพาไต้หวันก้าวสู่การเปิดศักราชใหม่แห่งเครื่องจักรกลรูปแบบอัจฉริยะต่อไป
 
อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในไต้หวันได้สร้างโอกาสงานมากกว่า 300,000 ตำแหน่ง และมีบทบาทที่สำคัญด้านการว่าจ้างบุคลากรภายในประเทศอย่างมีเสถียรภาพ โดยประธานาธิบดีไช่ฯ ยังขอบคุณกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและเครื่องมือกล ที่ได้ร่วมสร้างคุณประโยชน์ ซึ่งไม่เพียงแต่กระตุ้นการพัฒนาทางอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาคมโลกประจักษ์เห็นถึงศักยภาพของไต้หวันอีกด้วย
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน หลายประเทศในกลุ่มสมาชิกของ “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) ต่างก็อาศัยอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและเครื่องมือกลที่ผลิตโดยไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ ไต้หวันกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอสมัครเข้าร่วมกลุ่ม CPTPP เพื่อต้องการช่วยให้นานาประเทศสามารถก้าวข้ามอุปสรรคด้านภาษีศุลกากร ควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมไต้หวันในตลาดโลกด้วย
 
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 ของหลายๆ ประเทศ ไต้หวันยิ่งจำเป็นต้องทำการบูรณาการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลที่แม่นยำ รวมไปถึงการตรวจสอบระบบการผลิตอัจฉริยะ ด้วยการจัดตั้งทีมชาติไต้หวัน เพื่อขยายตลาดต่างประเทศ
 
นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังเห็นว่า เรากำลังเร่งผลักดัน “ภารกิจนโยบายมุ่งใต้ใหม่รูปแบบดิจิทัล” อย่างครอบคลุม โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า ผสมผสานกับการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานของระบบคลาวน์ เพื่อสร้างสายการผลิตรูปแบบอัจฉริยะที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
ในปัจจุบัน ไต้หวันมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้า พลังงานสีเขียว อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รวมถึงการแพทย์แบบแม่นยำและจำเพาะ ซึ่งล้วนมีความต้องการอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและเครื่องมือกล ที่ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานด้วยกันทั้งสิ้น
 
งานแสดงสินค้าในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและสามัคคีของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม โดยปธน.ไช่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม เพื่อนำพาไต้หวันก้าวสู่การเปิดศักราชใหม่แห่งเครื่องจักรกลอัจฉริยะต่อไป