ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 ต.ค. 66
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี ได้เข้าร่วม “พิธีประกาศผลและมอบรางวัล The Presidential Cultural Awards ครั้งที่ 12” เพื่อให้การยกย่องแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ร่วมส่งเสริมการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ผ่านพลังแห่งวัฒนธรรม โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง เพื่อส่งเสริมให้วัฒนธรรมของไต้หวันได้รับการพัฒนาให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ตลอดจนร่วมสร้างมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไต้หวันให้คงอยู่สืบไป พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังหวังที่จะเห็นผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ไปสู่คนรุ่นหลัง เพื่อส่งเสริมให้เกิดศักยภาพทางวัฒนธรรมให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทั่วโลก ถึงภาพลักษณ์ที่หลากหลายของพวกเรา
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า รางวัล The Presidential Cultural Awards ก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 แล้ว ในปีนี้ พวกเราตั้งปณิธานไว้ในหัวข้อว่า “ความรักของผืนแผ่นดิน ส่องสว่างหนทางข้างหน้า” โดยปธน.ไช่ฯ ได้อ้างอิงคำพูดของรองปธน.ไล่ฯ ที่เป็นประธานพิธีในครั้งนี้ ที่ได้มีการระบุไว้ว่า “วัฒนธรรมเป็นจิตวิญญาณของประเทศชาติ เป็นรากเหง้าของพวกเรา”
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า ผู้ได้รับรางวัลรวม 5 กลุ่มในครั้งนี้ ล้วนมาจากกลุ่มชาติพันธุ์และภูมิหลังที่แตกต่างกัน ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การมุ่งส่งเสริมนัยยะทางจิตวิญญาณและวัฒธรรมที่ล้ำลึกให้แก่ผืนแผ่นดินแห่งนี้ โดยรายชื่อผู้ครองรางวัลทั้ง 5 ประเภท มีดังนี้ :
ประเภทแรก “รางวัลบ่มเพาะวัฒนธรรม” ผู้ได้รับรางวัล คือ อ.เลี่ยวฉงจือ (Liao Chiung-chih) ที่มุ่งอุทิศคุณประโยชน์ในด้านการแสดงอุปรากรจีนเสมอมา ทั้งเสียงร้องที่ก้องกังวานและรูปร่างงดงามอ่อนช้อยของอ.เลี่ยวฯ ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นางเอกแห่งโศกนาฏกรรมอันดับ 1 ของไต้หวัน” ซึ่งนอกจากอ.เลี่ยวฯ จะมีผลงานการแสดงที่หลากหลายแล้ว ยังมุ่งมั่นสืบสานวัฒนธรรมการแสดงงิ้วของไต้หวัน ด้วยการจัดตั้งคณะอุปรากร Shintrun Taiwanese Opera Troupe ขึ้น และออกตระเวณจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่ผู้ที่สนใจในทั่วทุกพื้นที่ ตลอดจนยังเป็นผู้ริเริ่มวางแผนแม่บททางการแสดงอุปรากรระดับมือออาชีพ ที่มีความครอบคลุมสมบูรณ์
ประเภทที่ 2 “รางวัลความหวังของพื้นที่” ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ “สมาคมพัฒนากลุ่มชนคาวาลันเมืองฮัวเหลียน” ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นฟื้นฟูวัฒนธรรมของกลุ่มชนชาวคาวาลัน โดยทางสมาคมฯ ได้จัดตั้ง “ศูนย์ส่งเสริมภูมิปัญญาสิ่งทอจากใยกล้วยประจำหมู่บ้านซินเซ่อ” เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าผ้าทอที่ทำจากใยกล้วย ซึ่งเป็นผลงานหัตถศิลป์แบบดั้งเดิม และเป็นวัสดุที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ โดยผู้คนภายนอกสามารถเข้าสัมผัสกับวัฒนธรรมสิ่งทอจากใยกล้วยที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครที่เดียวในโลก ในศูนย์ส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ที่มุ่งมั่นสืบสานงานหัตถศิลป์ดั้งเดิมนี้ให้คงอยู่ต่อไป
ประเภทที่ 3 “รางวัลคุณประโยชน์ด้านมนุษยธรรม” ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ “สมาคมพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งไต้หวัน” โดยสมาคมฯ นี้ ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้ว นอกจากจะช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ของกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานและแรงงานต่างชาติแล้ว ยังส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมเกิดความเข้าใจต่อวัฒนธรรมผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผ่านสื่อสารสนเทศที่หลากหลาย ซึ่งสมาคมข้างต้นเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมสำหรับการได้รับยกย่องเชิดชูในครั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคต สมาคมฯ จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ให้มีโอกาสแสดงศักยภาพของตนในทุกแวดวงสาขาอย่างสุดความสามารถต่อไป
ประเภทที่ 4 “รางวัลความคิดสร้างสรรค์เยาวชน” ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ อ.จางสวีจ่าน ที่นอกจากจะมุ่งสืบสานผลงานประติมากรรมกระดาษแล้ว ยังคิดริเริ่มผลงานศิลปะรูปแบบแอนิเมชันด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดย อ.จางฯ ได้ประยุกต์ใช้เทคนิคหัตถศิลป์ที่สืบต่อมาจากในครอบครัว ซึ่งเขาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว พร้อมแต่งแต้มด้วยองค์ประกอบจากความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างผลงานอันยอดเยี่ยม ซึ่งประสบความสำเร็จในการคว้ารางวัลจากทั้งในและต่างประเทศมาครอง โดยนอกจากจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มีโอกาสได้ชมจากทั่วโลกแล้ว ยังส่งเสริมให้ผู้คนประจักษ์เห็นถึงความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดของศิลปะอีกด้วย
ประเภทสุดท้าย “รางวัลการปฏิรูปทางสังคม” ผู้ได้รับรางวัลได้แก่ รายการโทรทัศน์ “เกาะของพวกเรา” (Our Island) ที่ถ่ายทำโดยสถานีโทรทัศน์ PTS ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ทีมงานได้พลิกฟื้นความห่วงใยที่มีต่อผืนดินออกมาเป็นเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีการออกอากาศรวมมากกว่า 1,000 ตอน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญต่อประเด็นสิ่งแวดล้อมของไต้หวัน โดยพวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “เกาะของพวกเรา” จะมุ่งมั่นในการสร้างอิทธิพลต่อสังคมในฐานะสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง