คณะกรรมการกิจการชนพื้นเมือง วันที่ 26 พ.ย. 66
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการชนพื้นเมือง (Council of Indigenous Peoples, CIP) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดการประชุมสุดยอดผู้นำทางความคิดเห็นของกลุ่มสตรีชาวออสโตรนีเซียน ประจำปี 2023 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติไทเป (TICC) นับเป็นครั้งแรกที่ CIP จัดการประชุมดังกล่าว โดยมีผู้นำทางความคิดเห็นที่เป็นกลุ่มสตรีชาวออสโตรนีเซียน จำนวน 11 คนจาก 9 ประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมในไต้หวัน โดยในจำนวนนี้ Ms. Kitlang Kabua รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ก็ได้เดินทางเข้าร่วมด้วยตนเอง
CIP ชี้ว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมอภิปรายกันในประเด็นนโยบายทางการศึกษาของกลุ่มชนพื้นเมือง นโยบายเศรษฐกิจ นโยบายสาธารณะ และนโยบายการรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงทางวัฒนธรรม เป็นต้น โดยได้ร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้เข้าร่วมการประชุมจำนวนกว่า 200 คน พร้อมหวังเสริมสร้างวิสัยทัศน์ด้านต่างประเทศของกลุ่มสตรีชนพื้นเมือง ควบคู่ไปกับการขยายวิสัยทัศน์และอิทธิพลของกลุ่มเป้าหมายในกิจกรรมสาธารณะ ตลอดจนเป็นการจัดตั้งเวทีการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มชนพื้นเมืองของไต้หวันและกลุ่มชนชาวออสโตรนีเซียนด้วย
นอกจากนี้ CIP ยังได้จัดเตรียมแผนการนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนตำบลหนานอ้าว เมืองอี๋หลาน ซึ่งนอกจากจะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมจุดให้บริการเชิงวัฒนธรรมหนานอ้าว เพื่อร่วมสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้สูงวัยในกลุ่มชนพื้นเมืองแล้ว ยังได้เดินทางเยือนเขตพื้นที่แคมป์ปิ้ง Na Sun Na Gu เพื่อรับฟังรายงานการแบ่งปันข้อคิดของผู้ประกอบการชนพื้นเมือง พร้อมทั้งร่วมสัมผัสกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมของกลุ่มชนพื้นเมืองในหมู่บ้านตงเยว่ นับเป็นโอกาสการแลกเปลี่ยนที่มีคุณค่า ทั้งต่อแขกผู้มาเยือนและกลุ่มชนพื้นเมืองในพื้นที่
CIP เป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่มีหน้าที่บริหารกิจการที่เกี่ยวข้องสำหรับกลุ่มชนพื้นเมือง ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและผลักดันการพัฒนาในภาพรวมของกลุ่มชนพื้นเมืองไต้หวัน ควบคู่ไปกับการแสวงหาความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เพื่อขยายพื้นที่ในเวทีนานาชาติของไต้หวัน พร้อมทั้งจัดตั้งกลไกการประสานความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับกลุ่มชนพื้นเมืองโลก ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา CIP จึงได้ทำการผลักดัน “แผนการประชุมของกลุ่มชนชาวออสโตรนีเซียน ในระยะเวลา 6 ปี” ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนในทุกภาคส่วน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในภูมิภาคที่เป็นแหล่งพำนักอาศัยของกลุ่มชนชาวออสโตรนีเซียน