กระทรวงเกษตร วันที่ 21 ธ.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย และกระทรวงเกษตรไต้หวัน (MOA) ได้ร่วมจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการเงินกาบัญชีแก่สถาบันเกษตรกร ระหว่างไต้หวัน – ไทย” โดย MOA ได้ให้ความช่วยเหลือในการวางหลักสูตร เพื่อช่วยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย สามารถใช้เครื่องมือทางดิจิทัลมายกระดับการบริหารจัดการทางบัญชี เพื่อเป็นประโยชน์แก่กลุ่มเกษตรกร โดยในระหว่างนี้ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องของไต้หวัน ได้เข้าร่วมแบ่งปันข้อมูลในประเด็นต่างๆ อาทิ การฝึกสอนเกษตรกรเกี่ยวกับระบบการจัดการทางการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ การยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารงานขององค์กร ตลอดจนนำรายงานการวิเคราะห์มาศึกษาการวางแผนแนวทางการปฏิบัติการ ซึ่งสามารถดึงดูดเจ้าหน้าที่บัญชีในกระทรวงเกษตรของไทยจำนวน 200 กว่าคนมาเข้าร่วมผ่านช่องทางออนไลน์ เชื่อว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝ่ายและประสบการณ์การในการประยุกต์ใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม จะสามารถกระตุ้นแนวคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาสำหรับสถาบันเกษตรกร ในด้านการบริหารจัดการทางการเงินบัญชีและเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต พร้อมหวังว่าจะขับเคลื่อนให้การเกษตรในภูมิภาคมีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การก้าวไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่นต่อไป
 
MOA แถลงว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นหนึ่งในภารกิจอันดับต้นๆ ของข้อสรุปในการประชุมความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่างไต้หวัน - ไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2566 โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของไต้หวันเข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการดำเนินงาน การวางแผนในการดำเนินการและอุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำแผนการเงินและการบริหารข้อมูลเชิงสารสนเทศ ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีระเบียบ อันจะเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ที่ดูแลโดยกระทรวงเกษตรไทย ทั้งนี้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความแม่นยำในด้านการบริหารการเกษตร โดยกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ จะทำการชี้แนะนโยบายการช่วยเหลือภาคเกษตรกร และแผนกลยุทธ์การรับมือแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากสถาบันฝึกอบรมแห่งชาติเพื่อองค์กรเกษตรกร (National Training Institute for Farmers' Organizations, NTIFO) ฟาร์มออร์แกนิกเพ่ยฟาง (Peifang Organic Farm) และบริษัท Ling Cheng Technology Co., Ltd. เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินงานและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม พร้อมร่วมอภิปรายทิศทางการประยุกต์ใช้รายงานการวิเคราะห์และแนวทางการบริหาร โดยหวังว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ระหว่างไต้หวัน - ไทย ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันในเชิงลึกต่อไป
 
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย ชี้ว่า สหกรณ์การเกษตรของไทยมีจำนวนมาก ประกอบกับบัญชีรายรับและรายจ่ายมีความซับซ้อน ทำให้ต้องพบกับปัญหาในการยกระดับ การเก็บรักษาบัญชี และภาวะขาดแคลนบุคลากร เพื่อส่งเสริมให้สหกรณ์ องค์การเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน จัดตั้งระบบการเงินและบัญชีอย่างมีระบบ ควบคู่ไปกับการมุ่งส่งเสริมนวัตกรรมของระบบบริหารจัดการและตรวจสอบ เหล่าเจ้าหน้าที่ไทยได้ร่วมการฝึกอบรมได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการเกษตรของไต้หวัน สำหรับการช่วยเหลือและช่วยฝึกอบรมในครั้งนี้ โดยหวังว่าการร่วมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มแนวคิดเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินและวินัยทางการเงิน ให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขการดำเนินการทางเศรษฐกิจ และการบัญชีในภาคการเกษตรของไทย
 
MOA แถลงอีกว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมืออันดีทางการเกษตร ระหว่างไต้หวัน – ไทยแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์และความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรยุคใหม่ ที่ผลักดันโดย MOA โดยหวังว่า จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศทางการเกษตรของไต้หวันไปใช้งาน และการร่วมเรียนรู้ระหว่างสหกรณ์การเกษตรแบบข้ามแวดวง จะสามารถกลายเป็นต้นแบบด้านการปฏิบัติการ ในการพัฒนาทางการเกษตรในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ตลอดจนยังเป็นการผลักดันให้การพัฒนาทางการเกษตร มุ่งสู่อนาคตแห่งการเป็นเกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืนต่อไป