ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐนาอูรู อย่างเป็นทางการ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศชาติ
2024-01-16
New Southbound Policy。สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐนาอูรู อย่างเป็นทางการ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศชาติ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐนาอูรู อย่างเป็นทางการ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศชาติ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 15 ม.ค. 67
 
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประกาศแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า หลังจากที่กต.ไต้หวันรับทราบว่า รัฐบาลสาธารณรัฐนาอูรู ประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก หยิบยกญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 และ “หลักการจีนเดียว” มาเป็นข้ออ้างในการขอยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เพื่อเป็นการปกป้องอำนาจอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศชาติ กต.ไต้หวันจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับนาอูรูอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งระงับโครงการความร่วมมือแบบทวิภาคีทุกโครงการ และเรียกตัวเจ้าหน้าที่ในสถานเอกอัครราชทูต ตลอดจนทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ออกจากทุกพื้นที่ในนาอูรู อีกทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลนาอูรูสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตที่ประจำการอยู่ในไต้หวันด้วย
 
ตลอดที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมักใช้กลลวงในการชักจูงนักการเมืองของนาอูรู ด้วยการส่งมอบความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ เพื่อให้นาอูรูหันไปผูกความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแทน โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา รัฐสภานาอูรูได้ลงมติไม่ไว้วางใจ Mr. Russ Joseph Kun อดีตประธานาธิบดีนาอูรู และเปลี่ยนมาแต่งตั้ง Mr. David Adeang ให้ขึ้นรับตำแหน่งปธน. แทน พร้อมทั้งทำการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ก้าวขึ้นสู่วาระตำแหน่งแล้ว รัฐบาลไต้หวันก็ได้มุ่งประสานความร่วมมือในโครงการแบบทวิภาคี ร่วมกับนาอูรูอย่างกระตือรือร้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนาอูรูไม่พอใจกับผลประโยชน์ที่ได้รับ โดยได้เรียกร้องเงินบริจาคจำนวนมหาศาลจากไต้หวัน พร้อมทั้งทำการเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่จะได้รับจากแผนปฏิบัติการในการให้ความช่วยเหลือจากทั้งจีนและไต้หวัน
 
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันได้ยื่นเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือในขอบเขตที่สามารถส่งมอบให้ได้อย่างสุดกำลัง บนพื้นฐานของมิตรภาพที่มีแต่ดั้งเดิม ประกอบกับหลายปีมานี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้มุ่งผลักดันโครงการความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาประเทศชาติในภาพรวม แต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐของนาอูรูก็ยังคงมองเห็นแต่เพียงผลประโยชน์ที่จีนหยิบยื่นให้ โดยมองข้ามความช่วยเหลือและมิตรภาพอันดีที่ไต้หวันส่งมอบให้อย่างสม่ำเสมอมาเป็นเวลานาน และหันไปเปิดการเจรจากับจีน พร้อมร่วมมือกับจีนในการชูหลักการจีนเดียว โดยบิดเบือนข้อเท็จจริงของญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 ส่งผลให้รัฐบาลไต้หวันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง จึงขอประณามพฤติกรรมข้างต้นของรัฐบาลนาอูรูอย่างรุนแรง
 
ท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ต่างร่วมแสดงความยินดีต่อการเลือกตั้งทั่วไปของไต้หวัน ที่ปิดฉากลงอย่างราบรื่นเมื่อช่วงที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายคว้าชัยมาครอง รัฐบาลปักกิ่งกลับอาศัยวิธีการข้างต้นเหล่านี้ สร้างแรงกดดันต่อไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศและเสถียรภาพของสังคมโลก ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นการตอบโต้ต่อค่านิยมด้านประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นการสร้างความท้าทายอย่างเปิดเผย ที่ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศอีกด้วย
 
แน่นอนว่ารัฐบาลปักกิ่งต้องเป็นผู้แบกรับความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด พวกเราชาวไต้หวันขอเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งล้มเลิกแนวคิดเดิมๆ และหันกลับมาสู่เส้นทางแห่งความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ พร้อมทั้งแสวงหาแนวทางความร่วมมือกับไต้หวันและกลุ่มประเทศในภูมิภาค เพื่อสร้างผลประโยชน์อันดีร่วมกันให้เกิดแก่ภูมิภาคในระยะยาวสืบไป